รีวิว XO, Kitty ด้วยรักจากคิตตี้ – ซีรีส์วัยรุ่นของ Netflix ที่ซับซ้อน แต่มีเสน่ห์

สวัสดีครับแฟน ๆ คอซีรีส์เกาหลีทั้งหลาย พบกับเรา reviewnungdeeonline อีกเช่นเคย วันนี้เราจะมาพูดถึง หนังน่าดู เรื่องราวสุดว้าวุ่นของวัยรุ่นหนุ่มสาว ที่จะมาแจกความสดใจให้ฟินๆไปกับ xo kitty netflix ด้วยรักจากคิตตี้ เป็นซีรีส์ภาคแยกของ to the boy i’ve loved before ซีรีส์รักวัยรุ่นที่ฟิวชั่นสไตล์อเมริกันผสมเกาหลีได้อย่างลงตัวสวยงามมาก เริ่มเรื่องราวครั้งใหม่ ด้วยตัวละครลูกครึ่งอเมริกันเกาหลี “คิตตี้ ซอง คัฟวี่ย์” ที่กลับมาพร้อมการผจญภัยครั้งใหม่ในโรงเรียนนานาชาติชื่อดังของกรุงโซลประเทศเกาหลีใต้ เพื่อมาพบกับความรักทางไกลที่รอมาแสนนาน แต่ก็ได้รู้ว่าความสัมพันธ์นั้นสลับซับซ้อนกว่าที่คิดไว้มาก หากคุณเป็นชอบ ดูหนังใหม่ บางทีซีรี่ย์เรื่องนี้ก็อาจจะเป็นคำตอบให้คุณได้ สุดท้ายนี้หากดูแล้วชอบใจ ก็สามารถไปติดตามรับชมหนังเรื่องอื่น ๆ ได้ที่นี่ doonungonline

xo kitty season 2 เรื่องราวภาคต่อของ ‘คิตตี้’ น้องสาวของ ‘ลอร่า’ ที่บินตรงมาจากแอลเอเพื่อมาเป็นนักเรียนกแลกเปลี่ยนที่โรงเรียนนานาชาติที่ชื่อว่า ‘KISS’ ซึ่งเหตุผลจริงๆที่เธอมาที่ๆแห่งนี้ก็เพราะเพื่อนทางจดหมายคนสำคัญของเธออย่าง ‘แด’ หนุ่มเกาหลีที่เคยเจอกันเมื่อหลายปีก่อนทั้งคู่ติดต่อกันตลอดและมีความความรู้สึกดีๆต่อกัน

จนกระทั่งวันที่เธอมารู้ความจริงว่าของแดอยู่ในสถานะมีแฟนแล้วเรื่องราวความรักของเธอจึงต้องจบลงทั้งๆที่ยังไม่เริ่มก่อนจะเริ่มต้นใหม่อีกครั้งด้วยเพื่อนร่วมอุดมการณ์อีกมากมาย XO, Kitty ด้วยรักจากคิตตี้ “คิตตี้” เป็นหนึ่งในตัวละครที่เป็นน้องสาวของลาล่า จีนจากTo all the boys แด่ชายทุกคนที่ฉันเคยรัก และนี่เป็นซีรีส์ภาคแยกที่เล่าเรื่องราวความรักของคิตตี้ทางจดหมายกับแฟนหนุ่มชาวเกาหลี

xo kitty รีวิว ด้วยรักจากคิตตี้’ เล่าเรื่องราวของ คิตตี้ ซอง คัฟวีย์ (แอนนา แคธคาร์ต) น้องคนสุดท้องของครอบครัวคัฟวีย์ เธอเป็นเด็กสาววัยใสที่กำลังมีความรักทางไกลกับ แด (ชเว มินยอง) หนุ่มน้อยชาวเกาหลีใต้ นักเรียนหัวกะทิของ KISS โรงเรียนนานาชาติที่มีชื่อเสียงระดับท็อปของกรุงโซล เธออยากเจอเขามากถึงขนาดสอบชิงทุนไปเรียนที่เดียวกับเขา และแน่นอน การเดินทางไปเกาหลีใต้ในครั้งนี้นอกจากจะไปเจอแฟนหนุ่มของเธอแล้ว ที่ KISS ยังมีเรื่องราวความหลังของแม่เธออยู่ที่นั่นด้วย

ก้าวแรกของการมาเยือนโซล ไม่ง่ายและไม่ยากเกินไปสำหรับเธอ เรื่องราววุ่น ๆ ตามประสาวัยรุ่นก็ประดังประเดมาให้เธอพิสูจน์ตัวเอง ที่นี่เธอได้เจอกับเพื่อนใหม่อย่าง มินโฮ (ซังฮอน ลี) คิว (แอนโทนี เคย์แวน) และยูริ (เจียคิม ลี) ชีวิตใหม่ในอีกซีกโลกหนึ่งทำให้เธอได้รู้ว่า ความสัมพันธ์ที่มีหัวใจของตัวเองเป็นเดิมพัน มันช่างสลับซับซ้อนกว่าที่คิดเอาไว้มากจริง ๆ

xo kitty นักแสดง คิตตี้ รับบทโดย แอนนา แคธคาร์ท น้องสาวของ ‘ลอร่าจีน’ นางเอกสาวในซีซั่นแรก’คิตตี้’ สาวน้อยโลกสดใสที่พกเอเนอร์จี้บวกไว้กับตัวเสมอเธอบินตรงจากแอลเอมาที่ประเทศเกาหลีใต้หลังจากในระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมาเธอได้คุยกับเพื่อนในจดหมายอย่าง ‘แด’ มาตลอดหลังจากที่เจอเขาโดยบังเอิญในทริปครอบครัวที่เกาหลีเธอก็ติดต่อกับเขามาตลอดและตั้งใจจะย้ายมาเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่นี้..จนกระทั่งเธอได้มาพบความจริงบางอย่างเกี่ยวกับเพื่อนคนพิเศษ

แด รับบทโดย ชเวมินยอง เพื่อนที่คุยผ่านทางจดหมายของคิตตี้ตลอดระยะเวลาหลายปีเขาเป็นคนที่อ่อนโยน น่ารัก และ ใจดี และ เป็นคนที่คิตตี้คิดว่าคือคนที่ใช่สำหรับเธอจนกระทั่งมาได้ค้นพบความจริงว่าเขานั้นมีแฟนอยู่แล้วและเรื่องราวความสัมพันธ์ของทั้งคู่ไม่สามารถพัฒนาไปในเชิงนั้นได้ทว่าความลับที่แดยังคงซ่อนเธอไว้ก็ยังมีอีกหลายเรื่อง

มินโฮ รับบทโดย ซังฮอนลี เพื่อนร่วมคลาสที่เจอกับคิตตี้ครั้งแรกก็ออกตัวทันทีว่าไม่ชอบหน้าเธอ เขาเป็นคนที่หลงตัวเองคอยเชยชมและห่วงภาพลักษณ์ภายนอก และ มักจะคอยจิกกัดคิตตี้ตลอดเวลาแต่ยิ่งพอเวลาผ่านไปเขาก็เริ่มที่จะแสดงความหวังดีและความรู้สึกห่วงใยต่อคิตตี้แบบไม่รู้ตัว

คิว รับบทโดย แอนโธนี เคย์วาน เพื่อนชาย LGBTQ+ คนใหม่ของคิตตี้ทั้งสองได้รู้จักกันหลังจากที่เธอได้ย้ายเข้ามาอยู่หอพักรวม เขาเป็นคนที่อัธยาศัยดี เป็นผู้ให้คำปรึกษา และ มักจะคอยเทคแคร์เอาใจใส่คนอื่นเสมอ

ยูริ รับบทโดย เจียคิม สาวที่อ้างตัวว่าเป็นแฟนของ ‘แด’ เธอมีความลับที่กำลังปิดบังทุกคนอยู่ระหว่างเบื้องหลังความสัมพันธ์ของเธอกับแดแม้ภายนอกจะดูเพียบพร้อมไปทุกอย่างเธอก็มีความอึดอัดใจในเรื่องความสัมพันธ์ของครอบครัว และ ด้วยนิสัยที่ดูยิ่งผยองทำให้ในตอนแรกเธอกับคิตตี้ไม่ชอบหน้ากันและกัน

เป็นซีรีส์ที่มีเนื้อหาไม่หนักเบาสมอง ดูได้เรื่อย ๆ ครับ แต่ซีรีส์ก็ชอบสับขาหลอกคนดู เพราะความวุ่นวายของตัวละครที่ทำคนดูงงกับความสัมพันธ์ว่าสรุปแล้วตัวละครนี้จะไปจบที่ตรงไหน555 ส่วนตัวนะครับ เราชอบตัวละคร”แด”นะ ไม่ว่าจะมีเรื่องราวอะไรเกิดขึ้นก็ตามแต่เราเชื่อว่าเขารักคิตตี้มากๆ ในเรื่องเราจะได้ยินเพลงไอดอลเกาหลีหลายเพลงเลยด้วยครับ (สาวกเกาหลีต้องดูแล้ว)

และแอบมีเซอร์ไพรส์แขกรับเชิญเป็นไอดอลเกาหลีด้วยยย ต้องไปติดตามน้า ส่วนความเคมีเคใจคือดีมากกกในหนึ่งตัวละครสามารถมีเคมีได้มากกว่าหนึ่งคนด้วย555 นี่แหละคือสิ่งที่ซีรีส์เล่นเราแล้ววว และไม่ใช่มีแค่เรื่องความรักของคิตตี้เท่านั้น คิตตี้ยังได้ไปรู้ความลับของแม่ชาวเกาหลีของเธอด้วยว่าเธอมีพี่ชายอีกคน คิตตี้จึงต้องตามสืบทั้งราวของแม่และรับมือกับความรู้สึกของตัวเธอเองที่เป็นสิ่งที่ทำให้คิตตี้เติบโตขึ้นครับ เราว่านะซีรีส์ค่อนข้างจะสื่อถึงเรื่องความหลากหลายทางเพศมาก ๆ ด้วยครับ

คือเปิดโลกแหวกแนวเกาหลีไปเลยเพราะในสังคมเกาหลีค่อนข้างจะยังไม่เปิดในเรื่องนี้มากครับ ซีรีส์เล่าเรื่องราวแบบสบาย ๆ ย่อยง่าย แต่ก็จงใจใส่ดราม่าหนัก ๆ เข้ามาเป็นระยะ ๆ ทั้งเรื่องราวความรักวัยเรียนแบบอเมริกันผสมเกาหลี เรื่องของ LGBTQ ที่สังคมเกาหลีเป็นเรื่องยากที่จะยอมรับ แต่ธรรมดามาก ๆ ในสังคมอเมริกัน ความเข้มงวดของกฎหมายเรื่องการดื่มแอลกอฮอล์ในวัยรุ่น เรื่องของการตั้งครรภ์ในวัยที่ยังไม่พร้อม จนทำให้เด็ก ๆ ชาวเกาหลีหลายต่อหลายคนต้องกลายเป็นเด็กกำพร้าและถูกอุปการะโดยชาวต่างชาติ

แต่สิ่งที่เรื่องนี้ทำได้อย่างยอดเยี่ยมมากคือ การผสานรูปแบบซีรีส์วัยรุ่นฝรั่งเข้าไปในโครงสร้างสูตรสำเร็จซีรีส์เกาหลีได้เป็นอย่างดี ส่วนตัวผู้เขียนเป็นแฟนซีรีส์ฝรั่งทุกแนว และก็ดูซีรีส์เกาหลีด้วย แต่แฟนโดยทั่วไปมักจะเลือกฝั่งและไม่อินกับรูปแบบของอีกฝั่ง ยกตัวอย่างซีรีส์ฝรั่งต้องมีเรื่องความรักที่เปลี่ยนคู่ไปมา ความรักหลายเส้ามากๆ หรือฉากปาร์ตี้เมาเหล้าเต้นรำพวกนี้ ซีรีส์เกาหลีจะไม่มีแบบนี้เลย

แล้วความรักในซีรีส์เกาหลีคือ พระเอก นางเอก พระรอง บทวางไว้เป็นสูตรสำเร็จตายตัว เน้นฉากโรแมนติกหวานๆ สโลวโมชั่นพระเอกจูบนางเอกแทน ซึ่งเรื่องนี้มีหมดทั้ง 2 อย่าง ไม่มีส่วนไหนขาดหายไปเลย แม้ผู้ชมสายซีรีส์เกาหลีอาจจะไม่ชินกับรูปแบบการเปลี่ยนคู่ไปมาเหมือนพวกโลเลของฝรั่ง แต่บทของเรื่องนี้ก็ถูกเขียนออกมาดีพอจะทำให้ผู้ชมเชื่อและอินตามได้ แถมยังมีความกล้าเล่นเรื่อง LGTB

ในแบบที่รับรองว่าเซอร์ไพรซ์มาก ถึงขั้นกรี๊ดถูกใจแน่นอน เรียกว่างานนี้คือการเจาะตลาดผู้ชมกลุ่ม LGTB ในเกาหลีใต้หรือทั่วโลกที่ดูซีรีส์เกาหลีเป็นหลัก ซึ่งอาจจะอยากให้มีแบบนี้มานานแล้วก็ได้ แต่ทำไม่ได้เพราะติดขนบธรรมเนียมเดิมๆ ของเกาหลีใต้ สังคมที่นั่นยังไม่ถึงกับยอมรับเรื่องพวกนี้ได้อย่างที่อื่น โดยเฉพาะตัวละครที่เป็นเพียงเด็กมัธยมปลายในเรื่องด้วย

เป็นการผูกปมที่ใช้การเชื่อมโยงวัฒนธรรมที่แตกต่างของสองเชื้อชาติ แล้วเล่าออกมาเป็นเรื่องราวสนุกสนาน ประสาวัยรุ่นที่กำลังมีความรัก เราจะได้เห็นความน่ารักแบบอเมริกันสไตล์ของคิตตี้ ผสมรวมไปกับกลิ่นอายของความเป็นซีรีส์เกาหลี ที่ซีรีส์ถ่ายทอดออกมาแบบครึ่งต่อครึ่ง

ส่วนตัวเคยได้มีโอกาสดูซีซั่นก่อนหน้าที่นำแสดงโดย ลาน่า คอนดอร์ ซึ่งเรื่องนั้นบอกเลยว่าคาแรคเตอร์ของเธอในเรื่องตกผู้คนไปเยอะมากๆมาในเรื่องนี้ แอนนา เคธคาร์ต จากน้องสาวตัวน้อยในซีซั่นแรกตอนนี้เธอก็ได้รับไม้ต่อมาแล้ว ซึ่งในเรื่องคาแรคเตอร์ของเธอคนนี้ที่เราจะได้เห็นจะค่อนข้างแตกต่างพอสมควรใน ครั้งแรกที่เราได้เห็นใน to all the boys i’ve loved before เรื่องนี้

ถือว่าเธอมีความโตขึ้นและเป็นสาวเต็มตัวโดยนำเสนอรูปแบบของความสัมพันธ์หนุ่มสาวได้อย่างจริงจัง นอกจากในเรื่องนักแสดงที่เป็นคนดำเนินเรื่องอย่างเธอแล้วเราก็จะได้เห็นนักแสดงท่านอื่นๆที่มาโชว์เสน่ห์ที่หลากหลายกันมากมายทั้งชเวมินยอง แอนโธนี เคย์วาน เจียคิม และ ซังฮอนลี พูดเลยว่าซีรีส์เรื่องนี้คาแรคเตอร์มีความหลากหลายไม่ทับไลน์กันสักนิดเดียว

ส่วนตัวก็เป็นอีกหนึ่งคนที่ชอบคาแรคเตอร์ของ มินโฮ หนุ่มสุดยูนีคที่ออกมาทีไรจำเป็นต้องโฟกัสอยู่แบบนั้น รู้สึกว่าเค้าทำคาแรคเตอร์ออกมาได้มีเสน่ห์และน่าติดตามทุกตัวละคร เราได้เห็นความสัมพันธ์ที่มีการแสดงออกอย่างหลากหลายและมองได้หลายมุม ชอบที่ว่าในเรื่องความสัมพันธ์ตัวละครจะมีความ flexible มากๆแสดงออกให้เห็นถึงความเปิดกว้างมาก ๆ

สุดท้ายนี้ ตอนจบของเรื่อง หักมุม ไม่ Happy Ending ตามสไตล์หนัง Feel Good ที่เคยดูกันมา แต่ก็ทำให้แต่ละคนที่ได้ดูซีรีส์นี้ ย้อนกลับไปหารักแรกของตัวเอง ซึ่งอาจจะเป็นความรักที่ไม่สวยงาม ไม่ราบรื่น สะดุดทุกอุปสรรค และทำให้แต่ละคนได้เข้าใจความเป็นวัยรุ่นมากขึ้น นอกจากวัยรุ่นแล้ว พ่อแม่ผู้ปกครองที่มีลูกเป็นวัยรุ่นก็ควรดู เพื่อจะได้พูดคุยกับพวกเขารู้เรื่อง

ผู้จัดร่วมและผู้อำนวยการสร้าง: เจนนี่ ฮาน (ผู้สร้าง) และซาช่า รอธไชลด์
ผู้อำนวยการสร้าง: แมตต์ แคปแลนจาก ACE Entertainment
สตูดิโอ: Awesomeness Studios
ผู้กำกับ: เจนนิเฟอร์ อาร์โนลด์ (ตอน 101, 102, 105 และ 106) เจฟฟ์ ชาน (ตอน 103 และ 104) พาเมลา โรมานาวสกี (ตอน 107 และ 108) และคาทีนา เมดินา มอรา (ตอน 109 และ 110)
รูปแบบและจำนวนตอน: ผลงานโรแมนติกคอมเมดี้สำหรับวัยรุ่น ความยาว 10 ตอน ตอนละ 30 นาที

ติดตาม รีวิวหนัง Your Place or Mine รักสลับบ้าน หนังแนวรักโรแมนติกตลกสุดฟินได้ที่นี่