รีวิว Wonder Woman 1984 HD

 

 

วันนี้ตัวผมเองจะมารีวิว หนังเรื่อง Wonder Woman 1984 ตามฉบับของผมเอง นับว่าเป็นผลงานภาคต่อที่สร้างความกดดันให้กับผู้กำกับ แพตตี้ เจนกินส์ หนักหนาพอดู เพราะภาคแรกเมื่อปี 2017สร้างสถิติไว้มากมาย ทั้งเป็นหนังซูเปอร์ฮีโรหญิงที่ทำรายได้มากสุดเป็นประวัติการณ์ ตัวเลขจบที่ 822 ล้านเหรียญจุดความหวังครั้งใหม่ให้กับดีซีคอมิกและวอร์เนอร์ ที่เพิ่งชอกช้ำมากับ Suicide Squad หนังรวมวายร้ายจากจักรวาลดีซีที่ทำรายได้ไม่เข้าเป้าเจอเสียงโขกสับจากบรรดานักวิจารณ์และคนดู

Wonder Woman ยังสร้างอานิสงส์ลามมาถึงฝั่งมาร์เวล ให้กล้าเคาะไฟเขียวกับหนังซูเปอร์ฮีโรฝ่ายหญิงออกมาบ้างถือเป็นจุดกำเนิดให้เราได้เห็นขุ่นแม่ Captain Marvel ออกมาวาดลวดลายและตามด้วยหนังเดี่ยวของBlack Widowที่เป็นซูเปอร์ฮีโรรายเดียวในประวัติศาสตร์เลยมั้งที่มีหนังภาคแยกของตัวเอง หลังจากที่เจ้าตัวได้ตายไปแล้วในเส้นเรื่องหลัก

หรับ Wonder Woman 1984 นั้นมองเห็นได้ชัดตั้งแต่ชื่อเรื่องว่า แพตตี้ เจนกินส์ พยายามที่จะหาช่องทางการนำเสนอที่แตกต่างจากขนบของหนังซูเปอร์ฮีโร ด้วยการกำหนดให้เรื่องราวเกิดขึ้นในปี 1984 นำจุดเด่นของยุค 80s มาใช้เป็นฉากหลังได้อย่างชัดเจน ยังพาตัวตนของ ไดอานา พรินซ์ ให้เข้าสู่วิถีชีวิตเหมือนกับซูเปอร์ฮีโรอีกหลายราย ที่มีฉากหน้าในการเป็นมนุษย์เดินดินกินเงินเดือน ในภาคนี้ไดอานา ทำงานเป็นเจ้าหน้าที่โบราณคดีในพิพิธภัณฑ์สมิธโซเนียน ในหนังเล่าเรื่องให้พอเข้าใจได้ว่าเธอทำงานที่นี่มาสักระยะหนึ่งแล้ว เธอได้รู้จักกับเจ้าหน้าที่โบราณคดีหน้าใหม่ ดร.บาร์บารา มิเนอร์วา ดอกเตอร์ผู้เชี่ยวชาญทางวัตถุโบราณ ดูหนังได้ที่นี่

ทั้งคู่ช่วยกันวิเคราะห์หาที่มาของ ก้อนหินลึกลับจากชนเผ่ามายา ด้วยความบังเอิญทำให้ทั้งคู่พบว่า หินศักดิ์สิทธิ์ก้อนนี้มีพลังวิเศษสามารถขอพรอะไรก็ได้แล้วคำขอนั้นจะเป็นจริง แต่ก็มี แมกซ์เวลล์ ลอร์ด นักธุรกิจจอมฉ้อฉลที่ตามล่าหินศักดิ์สิทธิ์ก้อนนี้มาอย่างยาวนานได้ใช้อุบายหลอกล่อเอาหินศักดิ์สิทธิ์ก้อนนี้ไปครอบครองเพื่อสนองตัณหาให้ตัวเอง แล้วสร้างความปั่นป่วนให้กับโลก ทำให้วันเดอร์ วูเมน ต้องออกโรงจัดการและแก้ไขสถานการณ์วายป่วงนี้

ก่อนอื่นต้องบอกเลยว่าหนังภาคนี้ยาวถึง 2 ชั่วโมง 31 นาทีความรู้สึกเมื่อดูจบตอบได้ทันทีว่ายาวเกินไป เนื้อหาความตื่นตาตื่นใจไม่ได้อัดแน่นสมกับระยะเวลาของหนังหลายตอนสามารถตัดทอนให้กระชับลงได้ และฉากแอ็กชันจริง ๆ ก็มีเพียงแค่ 3 ฉากเท่านั้น ย้ำชัด ๆ เลยว่าแค่ 3 ฉาก แล้วไฮไลต์ส่วนใหญ่ก็นำมาขายในตัวอย่างหมดแล้ว ฉากไดอานาตอนยังเป็นเด็กที่ร่วมแข่งขันกีฬาสีตอนเปิดเรื่อง ฉากตะลุมบอนกับรถบรรทุกทหาร และฉากไคลแมกซ์ที่ต้องจัดการกับ 2 วายร้ายหลักของเรื่อง ไม่มีฉากโดดเด่นน่าประทับใจนอกเหนือจากที่เห็นใน

 

รีวิว Wonder Woman 1984 HD

 

รีวิว Wonder Woman 1984 HD เรื่องย่อ

หลังจากภาคแรกที่ สตีฟ คนรักของไดอาน่า หรือ วันเดอร์วูแมน ได้พลีชีพเพื่อช่วยเหลือมนุษย์ชาติ ไดอาน่าก็ใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยว และรักษาระยะห่างกับผู้คนเรื่อยมา ใจยังคงรักสตีฟชายที่จากเธอไปนานแสนนาน กระทั่งวันหนึ่งสตีฟฟื้นคืนชีพกลับมา และนำไปสู่การผจญภัยใหม่ ไดอาน่าและสตีฟต้องปกป้องผู้คนอีกครั้ง เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป สตีฟฟื้นคืนชีพได้ยังไง ติดตามดูได้ในโรงภาพยนตร์ค่ะ

Wonder Woman 1984 เป็นเรื่องราวในสหรัฐอเมริกาช่วงยุค 80 ซึ่งก็เป็นเวลา 60 กว่าปีหลังจากเหตุการณ์สงครามโลกครั้งที่ 1 ในภาคแรก ที่ไดอานา หรือวันเดอร์วูแมนได้ยุติสงครามร่วมกับมวลมนุษยชาติ แต่ก็ต้องแลกด้วยชีวิตของ สตีฟ แฟนหนุ่มนักบินที่ตัดสินใจพลีชีพในสงครามดังกล่าวทิ้งบาดแผลในใจฮีโร่สาว ที่ไม่ว่าจะผ่านไปนานกี่ปี เธอก็ยังคงโดดเดี่ยวและโหยหาชายผู้เป็นที่รักคนนี้อยู่เสมอ ดูหนังได้ที่นี่

ไดอานา ในภาคนี้ ไม่ใช่สาวชาวแอมะซอน ผู้ไร้เดียงสาที่เพิ่งทำความรู้จักกับโลกใบใหม่อีกต่อไป หากแต่เป็นนักโบราณคดีสาวสุดเพอร์เฟกต์ ที่ซ่อนพลังมหัศจรรย์ไว้เบื้องหลัง ก่อนที่เธอจะได้รู้จักกับ บาร์บารา มิเนอร์วา เพื่อนร่วมงานสุดเปิ่น ผู้ถูกมองข้ามอยู่เสมอในสายตาคนรอบข้าง ซึ่งนำพาทั้งคู่ไปค้นพบพลังปริศนาที่เปลี่ยนชีวิตทั้งสองสาว พลิกผันจากหน้ามือเป็นหลังมือ ซึ่งพลังที่ว่านี้ ก็ยังไปพัวพันกับการกลับมาของ สตีฟ ที่ทำให้ไดอานาต้องตัดสินใจครั้งที่ยากที่สุดในชีวิต รวมไปถึงการก้าวสู่อำนาจ อันไร้ขีดจำกัดของ “แม็กซ์ ลอร์ด” นักธุรกิจสุดทะเยอทะยาน ที่พร้อมจะนำพาหายนะมาสู่โลกทั้งใบ

 

รีวิว Wonder Woman 1984 HD

 

รีวิว Wonder Woman 1984 HD บบรยายเนื้อเรื่อง

 สามปีผ่าน สาวมหัศจรรย์กลับมาขึ้นจออีกครั้ง กัล กาด็อท เป็นไดอะนา พรินซ์/ สาวมหัศจรรย์เหมือนเคย, แพ็ตตี เจนคินส์ ผู้กำกับภาคแรกกลับมารับหน้าที่เดิม เพิ่มเติมด้วยการร่วมคิดเรื่องและเขียนบท เจนคินส์จับสาวมหัศจรรย์ไปอยู่ในยุค 80s หรือให้ชัดเจนลงไปอีกก็คือปี 1984 ที่ในยามปกติเธอคือเจ้าหน้าที่คนหนึ่งของสถาบันสมิธโซเนียน ที่เพิ่งได้สาวท่าทางไม่มั่นใจในตัวเอง ดูเนิร์ดๆ บาร์บารา มิเนอร์วา (คริสเทน วิก) เข้ามาทำงาน ทั้งคู่ร่วมกันตรวจสอบหินโบราณที่เอฟบีไอส่งมาให้ ซึ่งเป็นเป้าหมายของแม็กซ์เวลล์ ลอร์ด (เพโดร พาสคาล) นักธุรกิจน้ำมัน ที่ยิงโฆษณาทางโทรทัศน์ถี่ยิบชวนคนร่วมลงทุน โดยใช้ตัวเองเป็นพรีเซนเตอร์ ผู้ล่วงรู้ถึงอำนาจของหินโบราณก้อนนี้ ที่สามารถทำให้คำอธิษฐานเป็นจริงได้ แต่ก็จะต้องเอาบางอย่างจากผู้ขอกลับมา

บริษัทของแม็กซ์เวลล์ประสบความสำเร็จ ตัวเขาช่วยให้คนที่ขออะไรไปสมหวัง, ไดอะนาได้พบสตีฟอีกครั้ง, บาร์บารามีความมั่นใจมากขึ้น และมาพร้อมพลังพิเศษในตัว แต่พวกเขาก็ต้องมอบบางสิ่งกลับไปโดยไม่รู้ว่าเป็นอะไรจนมันแสดงตัว การมาถึงของสตีฟทำให้พลังของไดอะนาอ่อนแรงลง ความสำเร็จของแม็กซ์เวลล์ทำให้เขาห่างเหินจากลูกชาย สิ่งที่ใครๆ ขอจากเขาแล้วเขาขอกลับคืนสร้างความวุ่นวายไปทั่วโลก รับกับสิ่งที่ไดอะนากับบาร์บาราค้นพบ ทุกครั้งที่หินก้อนนี้ปรากฏในประวัติศาสตร์ ล้วนสร้างหายนะให้กับแต่ละยุค ในคราวนี้ก็ดูจะไม่ต่าง และไดอะนาหรือสาวมหัศจรรย์ก็ต้องหยุดมัน ซึ่งหมายความถึงหยุดแม็กซ์เวลล์ให้ได้ ดูรีวิวหนังได้ที่

หนังเล่นกับเรื่อง ‘ราคาที่ต้องจ่าย’ เพื่อสิ่งที่ต้องการ และนำเสนอได้ชัดเจน ผ่านทั้งตัวละครหลักๆ และที่เกี่ยวข้องกับพวกเขา ราวกับเป็นสารเตือนผู้คนทุกวันนี้ ที่กลายเป็นยุคของการอยากได้-อยากมี และอยากเป็น ทั้งสิ่งที่เป็นรูปธรรม ไม่ว่าจะเป็นทรัพย์สินสิ่งของ หรือนามธรรม เช่น ความรักหรือชื่อเสียง ที่ผู้คนต่างไขว่คว้า โดยที่ลืมไปว่าสิ่งที่พวกเขาต้องการนั้น มีสิ่งที่ต้องแลกกลับคืน โดยที่ไม่รู้ว่าเป็นอะไร ซึ่งอาจจะเลวร้ายกว่าของที่พวกได้รับ

หนังชัดเจนในประเด็น และเล่าเรื่องด้วยโทนที่แตกต่างกันจนรู้สึกชัด ช่วงแรกนอกจากจะไม่ต่างไปจากการปูพื้นของเรื่อง สร้างปมต่างๆ และแนะนำตัวละครใหม่ๆ แล้ว ยังให้เวลากับฉากโรแมนซ์ของสตีฟและไดอะนา ไม่น้อยเลย จนหลังจากดูไดอะนาในมาดสาวมหัศจรรย์จัดการโจรปล้นร้านจิวเวลรีเรียบร้อย น่าจะต้องใช้เวลาอีกราวๆ ถ้าไม่ถึงก็เกือบๆ หนึ่งชั่วโมงเลยทีเดียวกว่าจะได้เห็นสาวมหัศจรรย์ และฉากแอ็คชันอีกครั้ง จนเผลอคิดไปว่ากำลังดูหนังดรามาว่าด้วยชีวิตพ่อที่ทุ่มเทให้กับงาน ภาพยนตร์สืบสวนเรื่องความเป็นมาของหินลึกลับ และงานโรแมนซ์ของหญิงสาวกับแฟนหนุ่มที่กลับมาจากความตาย

คงไม่เป็นไร ถ้าเจนคินส์เล่าเรื่องได้อย่างกลมกล่อม มีความขึงขังสลับแซมเรื่องราวเบาๆ บ้าง โดยเฉพาะฟากของแม็กซ์เวลล์ ที่แม้เพโดร พาสคาล จะเล่นได้อย่างมีสีสัน ขึ้นจอด้วยท่วงท่าที่ทำให้นึกถึงมหาเศรษฐีและอดีตประธานาธิบดีของบางประเทศ แต่ก็ดูน่าขัน มากกว่าน่าเกรงขาม พอบวกกับโทนหนังที่ไม่ได้เข้มข้นนัก กับฉากโรแมนซ์น่ารักๆ ที่บางครั้งก็ยาวเป็นพิเศษ ช่วง… หรือว่าครึ่งแรกของหนังนอกจากจะไม่รู้สึกว่ากำลังดูหนังซูเปอร์ฮีโรแล้ว ยังหนืดย้วยเหลือเกินในเวลาเดียวกัน
รีวิว Wonder Woman 1984 HD

ความรู้สึกหลังดู Wonder Woman 1984 HD

 

ความรู้สึกส่วนตัวหลังดูจบคือชอบมากกว่าภาคแรกอีกค่ะ อาจเพราะวันเดอร์วูแมนเป็นฮีโร่ในดวงใจอีกตัว การได้เห็นเรื่องราวในชีวิตเธอเลยทำให้ชอบเป็นพิเศษ ใครที่ชอบความสัมพันธ์ของไดอาน่ากับสตีฟ ดู วันเดอร์วูแมน 1984 จะได้ฟินตัวแตกแน่นอนคับ การขยายความสำพันธ์ของไดอาน่ากับสตีฟให้เห็นมากกว่าภาคแรก ทำให้อิน อิมแพ็คกับคู่นี้มากขึ้น แต่ถ้าใครตั้งใจไปดูฉากแอ็กชัน อาจจะผิดหวังหน่อยๆเพราะใส่เข้ามาน้อย แต่ก็ทดแทนด้วยเนื้อเรื่องที่ทำออกมาได้ดี พาร์ทดราม่าทำออกมาได้ดีมากคับ ถึงกับน้ำตาไหล ตัวร้ายก็มีมิติ หนังนำเสนอมุมธรรมดาๆของมนุษย์เรา ไม่ว่ายากดีมีจน หรือแม้แต่ซุปเปอร์ฮีโร่ก็มี รัก โลภ โกรธ หลง อิจฉา ไม่ต่างกัน ไปดูเรื่องนี้คุณจะไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ ส่วนตัวเต็ม 10/10  เพราะส่วนตังผมชอบมากคับ ดูรีวิวหนังได้ที่นี่