รีวิว Spider-Man No Way Home HD
ต้องบอกไว้ก่อนเลยว่า นี่คือการรีวิว ไม่ใช่เป็นการสปอยล์แต่อย่างใด แต่ถ้าใครกลัวจะไม่สบายใจ อนุญาติให้ข้ามได้ นะครับผม ผมจะมารีวิว เท่าที่ผมไปดูมานะคับ รับรองไม่ผิดหวัง
วันนี้ขออนุญาตเลย ขออนุญาต รีวิว Spider Man : No Way Home กันซักหน่อย หลังจากที่ทางตัวผมเองได้ไปชมมาเป็นที่เรียบร้อย งานนี้ยิ้มไม่หุบ ปลื้มปริ่มทุกแอคชั่น ทุกโมเม้นท์ ที่สำคัญผมขอบอกเลยนะครับว่า ทุกคนต้องเข้าไปดูในโรงภาพยนตร์เท่านั้น อย่ารอดูสตรีมมิ่งอยู่ที่บ้านเลย เพราะมันจะมีโมเม้นท์ประทับใจกว่าแน่นอน
สองปีมานี้ โควิดกับสตรีมมิ่งแพลตฟอร์มต่าง ๆ อาจทำให้ความสำคัญของโรงหนังด้อยลงไปบ้าง ถึงแม้ช่วงที่ผ่านมา จะมีหนังบล็อกบัสเตอร์เข้ามาช่วยกู้ชีพบ้างประปราย รวมถึง Dune ที่เป็นบทพิสูจน์ว่า หนังบางเรื่องเขาสร้างมาให้เสพในโรงโดยเฉพาะ แต่เราคิดว่า Spider-Man: No Way Home คือเรื่องแรกในรอบสองปีที่ทำให้มั่นใจจริง ๆ ว่า “โรงหนังจะยังไม่ตาย
Spider-Man: No Way Home อาจไม่ใช่หนังที่สมบูรณ์แบบ และไม่ได้มี cinematic ที่ยอดเยี่ยมอย่าง Dune แต่เป็นหนังที่มอบ “ประสบการณ์ร่วม” แก่คนดูที่หาดูได้ยากยิ่งในโรงภาพยนตร์ บรรยากาศในโรงหนังแฮปปี้มาก คนดูต่างปรบมือและกรี๊ดพร้อมกันหลายฉากโดยมิได้นัดหมาย นี่คือหนังที่สนอง need ของแฟน ๆ สไปดี้อย่างเต็มอิ่ม และเอาใจคอหนังฮีโร่มาร์เวลที่สุดในรอบ 20 ปี ดูหนังได้ที่นี่
รีวิว Spider-Man No Way Home HD เรื่องย่อ
เป็นครั้งแรกที่ ‘Spider-Man’ ไม่ต้องซ่อนตัวใต้หน้ากากอีกต่อไป และเขาไม่สามารถแยกชีวิตในฐานะซูเปอร์ฮีโรออกจากชีวิตปกติได้อีกต่อไป เมื่อเขาไปขอให้ด็อกเตอร์สเตรนจ์ช่วยเหลือ แต่มันกลับกลายเป็นวุ่นวายกว่าเดิม บังคับให้เขาต้องหาทางแก้ไขและหาความหมายของการเป็นสไปเดอร์แมน หนังเรื่องนี้จะแนะนำสิ่งที่เรียกว่า Multiverse ในจักรวาลมาร์เวลอย่างเป็นทางการ พร้อม ๆ กับวายร้ายจากทั้ง ‘Spider-Man’ และ ‘The Amazing Spider-Man’ ก็จะมาปรากฎตัวด้วยเช่นกัน
ดูเหมือนว่าชะตากรรมของเพื่อนบ้านผู้แสนดีอย่าง ‘สไปเดอร์-แมน’ จะเริ่มขยายตัวใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ ขึ้นทุกที ๆ ครับ หลังจากที่รับงานฮีโรระดับเบอร์รองมาแล้วใน 2 ภาคก่อน ภาคนี้ในฐานะที่เป็นหนังในช่วงต้นของ MCU ในเฟส 4 ที่กำลังเดินหน้าปูพื้นเรื่องราวแบบ ‘พหุจักรวาล’ หรือ ‘มัลติเวิร์ส’ (Multiverse) เพื่อขยายขอบเขตวิธีการเล่าเรื่องให้กว้างกว่าแนวแอ็กชันแบบเดิม
ส่วนเรื่องราวในภาคนี้ก็จะเล่าต่อจาก End Credits ตัวแรกที่ทิ้งเอาไว้ในภาคก่อนหน้า (Spider-Man : Far From Home (2019)) ซึ่งถ้าใครที่ยังไม่ได้ดู ก็ต้องขอเบรกให้ไปหาดูก่อนให้เรียบร้อยก่อนนะครับ (ทั้งสองภาคมีให้ดูใน HBO GO) เพราะว่าเนื้อเรื่องของภาคนี้จะเริ่มต้นมาจาก End Credits ตัวนั้นแหละ หลังจากที่สไปเดอร์แมนสามารถโค่น ‘มิสเทริโอ’ (Jake Gyllenhaal) ได้สำเร็จ
มิสเทริโอก็วางระเบิดตูมสุดท้ายด้วยการปล่อยคลิปเฟกนิวส์ผ่านจอ LED ที่กล่าวหาว่าปีเตอร์เป็นคนสังหารเขาอย่างป่าเถื่อน กล่าวหาว่าปีเตอร์โอ่อ้างจะเป็นไอรอนแมนคนถัดไป ข่าวนี้ยังไปถึงหู ‘เจ. โจนาห์ เจมส์สัน’ (J.K. Simmons) นักข่าวสำนักข่าวออนไลน์ TheDailyBugle.net ออกมาแฉ (จากข้อมูลของมิสเทริโอ) จนทำให้คนทั้งโลกรู้กันไปทั่วว่าสไปเดอร์แมนคือปีเตอร์ ปาร์คเกอร์
ซึ่งตอนนี้มีซีรีส์ใน Disney+ ที่ปูพื้นเรื่องนี้ไว้ก่อนแล้วทั้ง ‘Loki’ และแอนิเมชัน ‘What If…? ‘ ซึ่งซีรีส์ทั้งสองเรื่องนี้เป็นตัวสรุปอย่างชัดเจนว่า มัลติเวิร์สคือแกนหลักสำคัญและความโกลาหลครั้งใหญ่ที่เหล่าฮีโรต้องรับมือให้ได้ ซึ่งในหนังเรื่องนี้ก็ดูเหมือนว่าความโกลาหลนั้นได้ปรากฏชัดขึ้นเป็นรูปเป็นร่างแล้ว และไอ้แมงมุมก็ถือว่าเป็นฮีโรตัวแรก ๆ ที่ต้องรับผลแห่งความโกลาหลนี้แบบชัด ๆ
เรียกได้ว่าภาคนี้เป็นการรวมเหล่าร้ายของจักรวาลสไปเดอร์แมนที่เคยสร้างมารวมไว้ด้วยกันเลยก็ว่าได้คับ ทั้งจาก Spider-Man และ The Amazing Spider-Man ตัวร้ายหลัก ๆ มีถึง 5 ตัวร้ายเลยทีเดียว และไม่ใช่แค่รวมตัวร้ายแต่ยังรวมสไปเดอร์แมนทั้ง 3 คนมาไว้ด้วยกันในภาคนี้ด้วย ทั้ง โทบีย์ แมไกวร์ จาก Spider-Man และ แอนดรูว์ การ์ฟิลด์ จาก The Amazing Spider-Man สไปเดอร์แมนทั้ง 3 ต้องร่วมกันต่อสู้เพื่อเอาชนะเหล่าตัวร้ายทั้ง 5 ฉากบู๊มันส์มาก จังหวะตลกแทรกได้ชวนขำ และดร.สเตรนจ์เหมือนกลายเป้นคุณพ่อคนใหม่ของปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ไปแล้วคับ รีวิวหนัง สไปเดอร์แมน
สรุป รีวิว Spider Man No Way Home HD
โดยภาพรวม ‘Spider-Man : No Way Home’ ยังคงรักษามาตรฐานของหนังฮีโรในแบบฉบับของ Marvel ได้อย่างครบถ้วน แต่นอกจากหนังเรื่องนี้จะเป็นหมุดหมายสำคัญของการเดินทางสู่มัลติเวิร์สอย่างเต็มตัวแล้ว หนังเรื่องนี้ก็เรียกได้ว่าเป็นหนังที่แฟนบอย สไปเดอร์-แมนไปดูยังไงก็ไม่ผิดหวังครับ เพราะนอกจากเรื่องราวที่โตขึ้นและการที่เราจะได้เห็นพัฒนาการ และจังหวะหัวเลี้ยวหัวต่อชีวิตของปีเตอร์ ปาร์กเกอร์ ที่กลายเป็นซูเปอร์ฮีโรแบบเต็มตัว และเติบโตขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจนมาก ๆ
และไม่ว่าคุณจะมีพื้นเพเกี่ยวกับคอมิกส์มาก่อนหรือไม่ คุณอาจจะชื่นชอบหรือขัดใจหนังสไปเดอร์-แมนเวอร์ชันดั้งเดิมขนาดไหน หรืออาจจะแค่ต้องการดูหนังแอ็กชันมัน ๆ ในช่วงวันหยุดปีใหม่ หนังเรื่องนี้ก็เรียกได้ว่าตอบโจทย์ได้หมด ทั้งมุกฮาจังหวะนรก เรื่องราวดราม่าสุดสะเทือนใจจนน้ำตาซึม และเซอร์ไพรส์ชวนกรี๊ดที่สปอยล์ไม่ได้แม้แต่สักแอะ เรียกได้ว่าหนังเรื่องนี้เป็นการเปิดฉากสู่มัลติเวิร์สอย่างเต็มตัว
ที่ต่อให้จะเป็นแฟนบอย หรือไม่ใช่ก็ตาม ก็น่าจะได้ฮาแตก เฮลั่น น้ำตาไหล อ้าปากค้างไปกับเซอร์ไพรส์มากมาย แต่ว่าต้องเข้าไปดูในโรงเท่านั้นนะครับ ถึงจะได้ความรู้สึกนี้แบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย อ่านหรือดูสปอยล์ยังไงก็สู้ไม่ได้หรอก
ความรู้สึกชม Spider Man No Way Home HD
เรียกว่าสานฝันแฟน ๆ สไปเดอร์แมนเลยก็ว่าได้ค่ะที่ได้เห็นสไปเดอร์แมนทั้งสามคนมาอยู่ร่วมกันในหนังเรื่องเดียว แถมยังรู้สึกปลดล็อคคลายปมในใจของสไปเดอร์แมนสองคนที่เหลือด้วยที่ในที่สุดพวกเขาก็ทำในสิ่งที่ครั้งก่อนพวกเขาทำไม่สำเร็จได้สำเร็จแล้ว ซึ่งจะเป็นอะไรต้องไปดูเองในหนังนะคะ สำหรับผู้เขียนช็อตพวกนี้คือน้ำตาซึมเลยคับ
ถือว่าเป็นภาคต่อที่ทำให้สไปเดอร์แมนสองคนก่อนหน้าปิดฉากได้อย่างสมบูรณ์เลยทีเดียว ส่วนปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ ฉบับของทอม ฮอลแลนด์ ผู้เขียนยังคงรอดูต่อไปค่ะ อ้อ ภาคนี้ยังมีเซอร์ไพรส์ ทนายแก้ต่างให้ปีเตอร์อย่าง Daredevil ก็มาร่วมแสดงรับเชิญด้วยนะคะ เรียกว่าเซอร์ไพรส์สุด ๆ เลยคับ
ส่วนตัวผมให้ 9/10 หัก 1 คะแนนเพราะผมรู้สึกว่าดร.สเตรนจ์ช่วยปีเตอร์ร่ายมนต์ง่ายไปหน่อย แม้จะให้เหตุผลว่าปีเตอร์สูญเสียมาเยอะแล้ว สมควรจะมีความสุขบ้างก็ตามทีเถอะ แต่นี่มันเปลี่ยนความทรงจำของคนทั้งโลกเลยเน้อท่าน เลยรู้สึกว่าขัดกับนิสัยดร.สเตรนจ์นิดหน่อยค่ะ แต่พอคิดว่าตอนดร.สเตรนจ์ ภาคแรก คุณดร.ก็ชอบแหกกฏอยู่แล้วก็เลยคิดได้ว่าอืมก็ไม่น่าขัดกับนิสัยของดร.เท่าไหร่
ส่วนอีกเรื่องก็เพราะมีการสูญเสียของใครคนหนึ่งในเรื่องนี่แหละค่ะที่ชวนให้ช้ำใจมากจนไม่อยากให้คะแนนเต็มเลยค่ะ ซึ่งจะเป็นใครก็ไปอยู่เองในหนังนะคะ แล้วคิดเห็นอย่างไรสามารถนำมาคอมเมนต์แชร์กันได้น้า บอกเลยใครที่พลาดชมหนังเรื่องนี้ คุณจะเสียใจ เพราะรวมสไปเดอร์แมนหลาย จักรวาล ในเรื่องเดียวกัน