รีวิว My Name | ซีรีส์เกาหลีแนวแอคชั่นบู๊ระห่ำ ของแก๊งมาเฟียค้ายาเสพติด
หนังน่าดู ซีรีส์น่าติดตาม เรื่อง My Name เป็นซีรีส์เกาหลีแนวแอคชั่นบู๊ระห่ำ (แค้นนี้ต้องชำระ) เรื่อง my name 2021 พากย์ไทย เป็นผลงานการพลิกบทบาทแบบสุดขั้วของ ‘ฮันโซฮี’ นักแสดงสาวดาวรุ่งที่กำลังเป็นที่จับตามองเป็นอย่างมาก เรื่องนี้ เป็น ซีรีส์แนวล้างแค้น บู๊ระห่ำ ไล่ฆ่าไล่แทงกันฉึบฉับ ที่ฮันโซฮี รับบทเป็น ‘ยุนจีอู’ หญิงสาวที่เข้ามาเป็นสมาชิกแก๊งยาเสพติดรายใหญ่เพื่อตามหาคนที่ฆ่าพ่อของเธอ ซึ่งแค่ดูแนวซีรีส์ก็เห็นแล้วว่าแตกต่างจากบทที่เธอเคยรับมาก่อนหน้านี้อย่างสิ้นเชิง
รีวิว My Name ซีรีส์แอ็กชัน สุดมันส์ ขององค์กรมาเฟียและวงการตำรวจ
รีวิว My Name ซีรีส์แอ็กชันฟิล์มนัวร์ที่ว่าด้วยเรื่องการหักเหลี่ยมเฉือนคมขององค์กรมาเฟียค้ายาเสพติดและวงการตำรวจ ที่ยากจะคาดเดาว่า my name สนุกไหม ใครคือหนอนบ่อนไส้ และใครคือฆาตกรที่ฆ่าพ่อของเด็กสาวจนทำให้เธอต้องลุกขึ้นมาล้างแค้น ซึ่ง ฮันโซฮี คือนักแสดงที่ยอมลงทุนทรานส์ฟอร์มตนเองเพิ่มน้ำหนักกล้ามเนื้อเกือบ 10 กิโลกรัม พร้อมเรียนการต่อสู้เพื่อฉากเตะต่อยที่ถึงเนื้อถึงตัวและสมจริง นี่คือบทพิสูจน์ที่ ดูหนังใหม่ อยากชื่นชมให้ความทุ่มเทในการรับบทนำซีรีส์แอ็กชันสุดเดือดเรื่องนี้
เรื่องย่อ
my name เรื่องย่อ เรื่องราวของหญิงสาวผู้มีไฟแค้นหวังจะตามล่าฆาตกรที่สังหารพ่อ จนยอมเชื่อใจเจ้าพ่ออิทธิพลมืดแฝงตัวเข้าสังกัดกรมตำรวจ กลายเป็นสายลับสองหน้าที่ต้องเผชิญกับความเสี่ยงในการค้นหาความจริงภายใต้เรื่องราวความขัดแย้งของโลกทั้งสองด้านที่เทาๆ พอกัน
หากใครเคยดูหนังแอ็กชันฮ่องกงที่บรรดาแก๊งมาเฟียต่าง ๆ ต่อสู้กันด้วยหมัดและมีด ไล่ฟันไล่แทงกันฉึบฉับ เลือดสาด สะบักสะบอม คุณจะได้เห็นสิ่งนั้นบน My Name ซีรีส์แนวแอ็กชัน-นัวร์เรื่องนี้ เพราะตัวเอกที่สะบักสะบอมชนิดที่เจ็บเป็นแต่ฮึบไว้ ทนทายาดและกัดฟันสู้กับฝั่งตรงข้ามด้วยตัวคนเดียว ลุยเดี่ยวไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหมเรื่องนี้ เป็นผู้หญิงร่างบางหน้าตาสะสวย ที่ชื่อว่า ‘ยุนจีอู’
แนะนำนักแสดง
- ยุนจีอู (รับบทโดย ฮันโซฮี) เด็กสาวที่ต้องทนทุกข์จากการถูกสังคมรังแก ถูกเพื่อนบูลลี่ และออกจากโรงเรียน ตำรวจตามติดแทบจะเป็นเงา ชีวิตแทบจะพังทลายเพราะพ่อของเธอคือขาใหญ่ในแก๊งยาเสพติดที่ใหญ่ที่สุดในประเทศอย่างแก๊งดงชอน แต่ ในวันเกิดอายุครบ 17 ปีของเธอ สายโทรศัพท์จากพ่อก็ดังขึ้น สิ่งที่เธอพูดกับพ่อเป็นอย่างแรก คือ my name ใครคือคนร้าย การระเบิดความรู้สึกทั้งหมดที่เธอต้องแบกรับและเผชิญมัน เธอไม่อยากจะรอพ่ออีกต่อไปแล้ว ต่อจากนี้เธอจะคิดว่าพ่อของเธอได้ตายจากไปอย่างไม่มีวันกลับ หลังจากพูดจบพ่อของเธอที่ได้กลับไปย้อนอ่านข้อความเก่า ๆ ที่เธอส่งมาก็ตัดสินใจที่จะไปหาเธอทันที
- ประธานชเวมูจิน (รับบทโดย พัคฮีซุน) หัวหน้าแก๊งดงชอน องค์กรค้ายารายใหญ่สุดของประเทศ พี่น้องคนสนิทของพ่อยุนจีฮู
- จอนพิลโด (รับบทโดย อันโบฮยอน) ตำรวจรุ่นพี่ในแผนกปราบปรามยาเสพติด
ความรู้สึกส่วนตัวหลังรับชมซีรี่ส์ My Name
บอกเลยว่าเรื่องนี้ฮันโซฮีสลัดคราบนางเอกที่เราเคยเห็นในเรื่องอื่น ๆ ไปอย่างสิ้นเชิง เพราะงานนี้เธอมาในแบบสะบักสะบอม มีเมกอัปเป็นคราบเลือดและบาดแผลทั่วเรือนร่าง สวมบทบาทเป็นสาวที่มีความหวังอยู่ที่การแก้แค้นให้พ่อผู้จากไป มุ่งมั่นสุด ๆ และตั้งใจไปหยุดอยู่ที่การหาฆาตรกรให้เจอและฆ่ามันให้ได้ การที่ต้องสูญเสียพ่อไปตั้งแต่อายุยังน้อยทำให้การแก้แค้นเป็นเป้าหมายอย่างเดียวในชีวิต เรียกได้ว่าชีวิตนี้อยู่ได้ด้วยความแค้นเพียว ๆ ไม่มีมุมอื่นเข้ามาแหยม
เป็นการเดินหน้าสู้เพื่อบรรลุเป้าหมาย ทำให้ตัวละครตัวนี้เป็นตัวละครที่แข็งแกร่งแต่ก็ไม่ได้ไร้หัวใจซะทีเดียว เราจึงจะได้เห็นนางเอกที่บู๊เลือดเดือด หน้าตายและไม่อยากยิ้ม จนผู้ชายทั้งเรื่องสามารถลืมไปได้เลย ว่าเธอเป็นผู้หญิง เตะต่อยไปเลยจ้า เอาให้เต็มที่เพราะเธอก็จะไม่ยอมรามือให้ใครเด็ดขาด งานนี้แฟนคลับหนังบู๊ไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ เพราะคิวบู๊ต่าง ๆ ที่ประเคนมาในทุก ๆ ฉากนั้นมันส์มากกก ทำเอาเลือดในกายพุ่งพล่าน ผสมกับความอึดอัด ลุ้นระทึกเพราะเอาใจช่วยนางเอกตลอดเวลา
ซึ่งฮันโซฮีก็สวมบทบาทนี้ได้อย่างเด็ดขาด สีหน้าแววตาบ่งบอกชัดเจนเลยว่า ผู้หญิงคนนี้หาความสุขในชีวิตไม่ได้เลยเพราะชีวิตของเธอมีแต่ความแค้นอยู่เต็มอก ทุกนาทีจมอยู่กับความทุกข์ ไร้สิ่งบันเทิงใด ๆ มาทำให้ชีวิตสดใส มืดมนสิ้นดีอ่ะจ้ะชีวิตนี้ เป็นเส้นเรื่องเดี่ยว ๆ ที่พุ่งเป้าไปที่การแก้แค้นของนางเอก และการลิ้มรสความเจ็บปวดจากความไว้ใจคนผิดที่เรารู้แต่นางเอกไม่รู้ เรียกได้ว่าไม่ต้องเดาตัวร้ายคนดูก็เห็นอยู่โต้ง ๆ จากประสบการณ์ของการดูหนังแอ็กชันแนวนี้มามากมาย ไม่ต้องเดาก็รู้แล้วละว่ามันคือใคร แต่สิ่งที่จะลุ้นไปกับเธอก็คือ เมื่อเธอรู้แล้วเธอจะจัดการกับมันยังไงและดื่มด่ำไปกับฉากแอ็กชันที่ไม่ห่วงสวยของฮันโซฮีกันให้เต็มปอด ก็คุ้มแล้วที่จะดูซีรีส์เรื่องนี้
ถึงแม้ว่าบทในเรื่องนี้ดูเผิน ๆ ก็ไม่ได้แตกต่างจากหนังเจ้าพ่อที่ฟัดกัดไม่ปล่อย ตัวเอกตัวร้ายสู้กันชนิดที่ไม่รู้จักความเจ็บปวด ฟัน แทง ยิงไม่ยั้ง ไอ้ที่ตายก็คือตาย ไอ้ที่ไม่ตายก็ทนทายาด แบบว่า โอ้ยยยย อึดเกินไปแล้ว แต่ที่แตกต่างออกไปก็คือ ซูเปอร์อึดในเรื่องนี้คือ ‘นางเอก’ ที่พกชีวิตบัดซบไว้กับตัวตลอดเวลา เราจะไม่สามารถเข้าใจได้เลยว่า อะไรวะก็พ่อเธอเป็นอาชญากรนี่นา การที่จะถูกเก็บมันก็ถูกแล้ว แต่ถ้าเราเข้าใจถึงสาเหตุเราก็จะเชื่อได้ไม่ยากและยิ่งดูต่อไปเรื่อย ๆ ก็จะสงสารนางเอกจับหัวใจ เพราะชีวิตของเธอมันช่าง บัดซบยิ่งนัก
บ่อเกิดของความแค้นและเหตุผลในการล้างแค้นได้จุดประกายมาจากการที่ ยุนจีอูเห็นพ่อของเธอตายไปต่อหน้าต่อตาตั้งแต่เธออายุยังน้อย คือเด็กมากและเด็กเกินกว่าที่จะเข้าใจเหตุผลใด ๆ ไปหาตำรวจก็ไม่มีตำรวจคนไหนอยากจะช่วยเหลือตามหาคนร้ายให้ เพราะพ่อของเธอเป็นอาชญากร สุดท้ายที่พึ่งหนึ่งเดียวก็คือชเวมูจินเพื่อนของพ่อที่เป็นหัวหน้าแก๊งดงชอน ที่ปั้นเด็กมัธยมคนหนึ่งให้กลายเป็นสายลับที่เอื้อผลประโยชน์ให้กับตัวเองอย่างเลือดเย็น
รีวิว My Name ซีรี่ส์สนุก ๆ ที่คุณไม่ควรพลาดทุกประการ
นี่เป็นงานซีรีส์เกาหลีที่พยายามยกระดับเปลี่ยนแนวทางของตัวเองจากละครแบบเดิมๆ ในทีวีที่มาขายพ่วงสตรีมมิ่ง ซึ่งที่ผ่านมาหลังๆ เราจะเห็นว่างานซีรีส์เน็ตฟลิกเกาหลีแตกต่างออกจากพวกที่ลงต่อสัปดาห์มาก ซึ่งงานที่ทำลงเน็ตฟลิกซ์มีอิสระยืดหยุ่นมากขึ้นเยอะ เกือบจะเรียกว่าไร้ข้อจำกัดเลยก็ได้ แม้จะยังมีติดๆ บางอย่างที่ยังไม่เท่าของฝรั่งอยู่บ้าง อย่างฉาก SEX โป๊เปลือยหรือตัวละคร LGTB แบบจัดจ้าน แต่งาน My Name นี้ก็เรียกว่าเกือบจะทลายข้อจำกัดนั้นได้หมดแล้ว ซึ่งก็ต้องชมการเลือกดาราสาวฮันโซฮีมารับบทนี้ที่กล้าฉีกแนวทางก่อนๆ ของตัวเองไปจนหมดสิ้น
ฉากแอ็กชั่นในเรื่องคือตัวขับเคลื่อนเรื่องแบบจริงจังตลอดเวลา โดยเนื้อเรื่องถูกวางจังหวะให้มีฉากแอ็กชั่นคั่นกันตั้งแต่แรกเริ่ม อย่างตอนเธอยังเป็นนักเรียนก็ต้องสู้กับพวกที่มารังแกเธอก็ยังไม่วายโชว์คิวบู๊ในห้องเรียนกันแต่แรก ซึ่งการที่ตัวเรื่องอัดแอ็กชั่นมาถี่ๆ บทก็ต้องคิดมาดีไม่ใช่แบบต้มยำกุ้งของไทยที่ยัดมาดุ่ยๆ โดยไม่มีบทดีๆ รองรับ ซึ่งเรื่องนี้คิวบู๊ถูกใส่มาพร้อมกับผลักดันเนื้อเรื่องไปข้างหน้าแบบค่อนข้างลงตัวไม่ขัดกับบท อาจจะมีความรู้สึกว่าผู้กำกับอยากโชว์ของถี่ๆ อยู่บ้าง
แต่ก็ไม่รู้สึกว่าจะเป็นปัญหาอะไร เพราะจุดขายของเรื่องคือตรงนี้ และทุกคิวบู๊ก็ออกแบบมาแตกต่างกันทั้งหมดเป็นอย่าง มีการใช้มือเปล่า เตะ ต่อย มีด ปืน สิ่งของรอบตัวครบ รวมถึงฉากขับรถไล่ล่าก็ยังมีเข้ามาหลายครั้ง ซึ่งแอ็กชั่นของเรื่องนี้ก็ติด เรตรุนแรงกันแบบจะๆ อย่างปาดคอเลือดพุ่ง มีดแทงทะลุตัว ยิงหัวทะลุแบบไม่เซ็น ซึ่งเทียบได้กับหนังฝรั่งแนวนี้ดีๆ เลย ผู้กำกับไม่มีลิมิตเรตติ้งอะไรทั้งสิ้นจึงประเดประดังความโหดเลือดสาดกันมาเต็มที่สมใจคนที่ชอบแนวนี้แน่นอน
ยุนจีอู นี่แหละผู้หญิงที่ปกป้องคุณได้
บทเขียนให้นางเอกเรื่องนี้ไม่ได้แกร่งเกินพิกัด แต่ความอึดนั้น ประหนึ่งว่ากินแรดเข้าไปสามตัวเลยทีเดียว ก็อึดป๊ายยย คิวบู๊ต่าง ๆ เอื้อให้นางเอกสามารถต่อกรกับผู้ชายทั้งหลายในเรื่องได้ด้วยความฉลาดสู้ จู่โจมเฉพาะจุดสำคัญและว่องไวจนรู้สึกว่าลีลาในการฟาดฟันพอเหมาะพอเจาะ ทำให้เส้นเรื่องสั้น ๆ ที่ไม่มีอะไรเลยนอกจากการตามล้างแค้น ชีวิตบัดซบและการถูกหลอกใช้ มีไว้เพื่อให้นางเอกได้บรรเลงเพลงบู๊อย่างมีเหตุผลรองรับ เรียกว่าหาเรื่องขายคิวบู๊่ของนางเอก ว่างั้นเถอะ ก็ขอชมฮันโซฮีอีกแล้วว่าเล่นคิวบู๊ได้ละเอียด เนียนตาเอามาก ๆ ไม่เกิดความขัดหูขัดตา ไม่เกิดความรู้สึกว่าเวอร์วังเกินเบอร์ใด ๆ เลยทั้ง ๆ ที่เธอตัวนิดเดียวเมื่อเทียบกับผู้ชายร่างกำยำทั้งเรื่อง
ส่วนโลกอีกด้านที่นางเอกใช้ชีวิตอยู่คือในหน่วยปราบปรามยาเสพติดของตำรวจ เนื้อเรื่องด้านนี้ก็ต้องบอกว่าดีงามไม่แพ้กัน ด้วยความที่เป็นฟิล์มนัวร์จึงนำเสนอโลกตำรวจแบบเทาๆ เป็นหลัก ไม่ใช่ตำรวจแบบสายขาวสะอาดตั้งใจจับโจรแบบปกติในหนังทั่วไป ซึ่งการที่นางเอกเป็นตัวละครเทาๆ ต้องมาเจอกับโลกของตำรวจแบบเทาๆ ก็ทำให้ตัวเรื่องส่วนนี้น่าติดตามมากถึงมากที่สุด ในแง่ที่ว่านางเอกเองก็พยายามช่วยเหลือแก๊งดงซอนไปพร้อมกับการเป็นตำรวจบังหน้า เราจึงเห็นตัวละครจีอูเป็นตำรวจที่ทำเรื่องผิดกฎหมายตลอดทั้งเรื่องยันจบ แบบที่มีชะงักกลับมาขาวๆ ก็เป็นแค่ช่วงตอนท้ายไม่มาก
ซึ่งการที่คาแรกเตอร์นางเอกเป็นแบบนี้แล้วทำให้คนดูยังเอาใจช่วยได้ก็เพราะการวางบทมาดีว่าเธอมีความแค้นเป็นไฟชีวิต และเป้าหมายที่แค้นคือคนในหน่วยที่เธอแฝงตัวเข้ามาเองแต่ยังหาหลักฐานเอาผิดตรงๆ ไม่ได้ ซึ่งตัวเรื่องก็วางบทให้ตัวละครตำรวจดูเป็นคนเทาๆ แยกไม่ออกตั้งแต่ จอนพิลโด คู่หูของนางเอกแม้เราจะรู้ว่าหมอนี่คือพระเอก แต่นี่ไม่ใช่คาแรกเตอร์แบบพระเอกเกาหลีปกติเลย เขามีความแรงใส่กับจีอูตั้งแต่แรก และยังแอบสงสัยพฤติกรรมแปลกๆ ของเธอจนแอบตามสืบ โดยที่ตัวเขาเองก็มีอะไรบางอย่างปกปิดไว้ร่วมกับหัวหน้าชากีโฮที่ดูมีลับลมคมในมาก ซึ่งตัวเรื่องวางเขาเป็นตัวละครเทาๆ เข้มสุดของฝ่ายตำรวจในเรื่อง อย่างการทำงานแบบปล่อยให้อาชญากรฆ่ากันเองโดยไม่ห้าม เพราะมองว่าพวกเลวๆ แบบนี้ตายไปซะได้ก็ดี หรือความเกี่ยวข้องปิดบังคดีการตายของพ่อนางเอก ซึ่งอะไรหลายอย่างทำให้ตัวละครนี้ดูเทาๆ
และการที่ตัวนางเอกเทาๆ จนถึงขั้นดาร์คก็ทำให้ตอนจบของเรื่องนี้ดูท้าทายมากว่าจะให้ลงเอยแบบไหน ซึ่งตามสไตล์ฟิล์มนัวร์มักจบหดหู่กันทั้งนั้น ก็ต้องบอกว่าตัวเรื่องนี้จบแบบค่อนข้างชิลมากไปหน่อยในสไตล์ฟิล์มนัวร์ อาจจะเป็นจุดด้อยหลักของเรื่องเลยก็ได้ คือต้องบอกว่าทุกอย่างในเรื่องถูกปูมาเพื่อตั้งความคาดหวังว่าตอนจบต้องพีคสุดๆ ทั้งฉากแอ็กชั่น เนื้อเรื่องที่บีบคั้นแทบไร้ทางออก แต่ตัวเรื่องขายแค่ฉากแอ็กชั่นนางเอกลุยเดี่ยวล้วนๆ กับการดวลกับลาสบอสที่ก็ไม่ได้รู้สึกว่าพีคเท่ากับช่วงที่ผ่านมานัก แต่ก็ต้องบอกว่าไม่ใช้ทำออกมาไม่ดี คือดีแต่แค่ไม่สุด แล้วก็จบแบบหาทางออกให้นางเอกง่ายๆ โดยไม่มีรายละเอียดให้เราได้รับรู้ เนื้อเรื่องถูกสคิปข้ามไปเลย จนเหมือนบทตอนจบละเลยเหตุผลตามจริงมากไป
รีวิว The Wandering Earth 2 ปฏิบัติการฝ่าสุริยะ หนังไซไฟ/แอคชั่น 2023