รีวิว BATMAN V SUPERMAN : Dawn of Justice
รีวิว BATMAN V SUPERMAN : Dawn of Justice ในที่สุดก็ได้ เผชิญหน้ากัน ระหว่าง แบดแมน และ ซุปเปอร์แมน แบบเต็มสูบ
ก่อนอื่นคงต้องบอกว่าไม่ใช่แฟนบอยค่าย DC หรือ Marvel และแน่นอนคนดูหนังเรื่องนี้คงต้องผ่านตากับ Man of Steel (MOS) ไปบ้างแล้ว ซึ่งผมเป็น 1 ในคนที่ดู Man of steel แล้วรู้สึกโอเค แต่ไม่ได้ชอบอะไรเป็นพิเศษ การตีตั๋วไปดู BvS นั้นตอนแรกก็คาดหวังเอาไว้ว่าคงได้เห็น Batman ตีกับ Superman ด้วยสาเหตุอะไรสักอย่างแค่นั้นคงพอ แต่ด้วยคะแนนรีวิวของหลายๆสำนักคะแนนค่อนข้างแย่ เลยพยายามคาดหวังให้น้อยลงและพยายามลดอคติก่อนดู เพื่อจะได้ไม่เจ็บตัวนัก
Bvs แน่นอนมันเป็นหนังภาคต่อจาก Mos หนังพยายามเล่าเรื่องหลังเหตุการณ์ภาคแรกที่ทำให้ Batman ไม่พอใจ Superman จะว่า Batman เวอร์ชั่นนี้คือ Bat version เกษียณก็ได้ หนังเล่าเรื่องสลับไปสลับมาอย่างไร้ทิศทาง คือตอน Mos หนังก็พยายามเล่าอดีตสลับปัจจุบัน แต่ในเรื่องนี้กลับไม่เป็นเช่นนั้น หนังเหมือนตัดต่อไม่ดี เล่าเรื่องปะติดปะต่อไม่ได้ เพราะหลังจากหนังเปิดตัวได้สักพัก จุดความน่าติดตามและความอึดอัดก็ตามมาเกือบๆ 2 ชั่วโมง
คือถ้าเปรียบเทียบก็เหมือนผู้กำกับอยากผัดกระเพราแต่ระหว่างผัดก็ใส่ถั่วฝักยาว คิดได้ก็ใส่แครอทลงไป ยังไม่พอก็ใส่หอมลงไป หนังมันเลยสะดุดอยู่อย่างนั้น หนังดูจะอึดอัดขึ้นเรื่อยๆเพราะตลอดแทบทั้งเรื่องฉากแอคชั่นน้อยมาก ฉากที่ทุกคนรอคอยคือการฟัดกันระหว่าง Bat และ Sup ก็มีแค่ไม่กี่นาทีเท่านั้น แถมยังมาตอนหนังใกล้จบราวๆ 30 นาทีสุดท้าย
สำหรับแฟนๆหนัง marvel มีอีกมากมาย รับชมได้ที่ ดูหนังออนไลน์ ที่นี่ง่ายๆแค่คลิกเลย
ความเห็นเบื้องต้นของผมนั้น ใครอยากดูขอแนะนำให้เข้าไปดูเลยครับ คือหนังไม่ถึงกับเลวร้ายจนเกินไปรับหรอก มันก็โอเคในแบบของมัน ดูสนุกตามสไตล์หนังซูเปอร์ฮีโร่ เพียงแต่พอดีว่าเราทั้งหลายผ่านหนังอย่าง The Dark Knight Trilogy และสารพัดหนัง Marvel มามาก มันจึงไม่แปลกครับที่มาตรฐานหนังซูเปอร์ฮีโร่ในใจเรา มันจะสูงขึ้นกว่าเมื่อ 10 ปีก่อนเยอะ
ดังนั้นหากใครเป็นแฟนพี่แบทและพี่ซุป หรืออยากเห็นวันเดอร์ วูเมนกับเล็กซ์ ลูเธอร์ล่ะก็ ตีตั๋วเข้าไปดูได้เลยครับ ไม่ต้องรอคำวิจารณ์จากใครที่ไหน จะชอบหรือไม่ชอบก็ให้เราเองนี่แหละตัดสิน
อีกอย่าง ผมว่าหนังทำเงินแน่ๆ ล่ะครับ (ขึ้นกับว่าจะมากหรือน้อยเท่านั้นเอง) ดังนั้นยังไงหนังเรื่องอื่นๆ ในจักรวาล DC ก็ต้องเกิดขึ้น แบบนั้นแล้วเราก็ดูเถอะครับ จะได้ตามไปดูเรื่องอื่นๆ ต่อได้อย่างสนุกสนานเพลิดเพลิน
ไปดูได้เลยครับเรื่องนี้ เพียงแต่ต้องไม่คาดหวัง ลดความคาดหวังให้มากๆ ลืมความดีที่ Nolan เคยทำไว้กับ The Dark Knight Trilogy แล้วผมว่าท่านคงจะโอเคกับหนังเรื่องนี้อยู่
ถ้ามีคนเคยบอกว่า หนัง Marvel เป็นหนังสไตร์ตลก แล้วหนัง DC เป็นสไตร์ดราม่ามืดหม่น BvS ยังไม่สามารถทำได้ถึงขั้นนั้น แม้ว่าจะไม่ได้ประทับใจกับ Mos มากนัก แต่รู้สึกว่าเรื่องนั้นทำได้มืดหม่นกว่า กลับกันหนังเรื่องนี้เหมือนคนทำนั้นลังเลว่าฉันควรจะทำให้มันมืดหม่นดราม่าดีไหม เหมือนคนกำลังทำช็อคโกแลต Marvel ทำช็อคโกแลตนม กินแล้วหอมหวาน ส่วน DC ทำดาร์คช็อค ที่ขมแต่กลมกล่อม หนังเรื่องนี้กลับทำได้แค่ ช็อคโกแลตธรรมดาๆแท่งนึงเท่านั้น ไม่รู้ว่าเป็นความคิดของผู้กำกับหรือเปล่าหรือเป็นทางสตูดิโอที่ให้ทำหนังออกมาไม่มืดหม่นเกินไป เพราะกลัวจะขายเด็กไม่ได้ หนังจึงออกมาแค่ครึ่งๆกลางๆเท่านั้น
ว่าด้วยเรื่องตัวละครภาคนี้ Batman ที่ Ben Affleck เล่นทำหน้าที่ได้ดีในด้านอารมณ์ เขาดูหม่นหมอง ผ่านร้อนผ่านหนาวมาเยอะ แต่ตัวละคร Batman ตัวนี้ให้ลืม Version ของโนแลนไปซะ เพราะตัวละครตัวนี้คือ Batman ผู้ซึ่งพร้อมจะฆ่าทุกคน ใช้อาวุธหนัก ถล่มศัตรูจนคนดูอาจสงสัยว่า Batman ไม่ฆ่าคนจริงๆเหรอ
Henry Cavill ที่รับบท Superman ยังคงทำหน้าที่ได้คงเส้นคงวา ส่วน Gal Gadot ในบท Wonderwoman ก็ทำหน้าที่ได้ดี ดูสวย ดูสตรอง และพร้อมที่จะออกมาแย่งซีนตอนท้ายเรื่อง แม้จะไม่กี่นาทีก็ตาม
สิ่งที่จะไม่พูดไม่ได้คือ Lex Luthor ตัวละครหรือตัวร้ายในเรื่องที่ Jesse Eisenberg รับบทนั้น ถือว่าเข้าขั้นวิบัติ ตัวละครนี้ออกมาฆ่าหนังอย่างแท้จริง แน่นอนสำหรับคนดูหนังที่ไม่คิดอะไรมาก อาจจะคิดว่าตัวร้ายตัวนี้มันมีจริตจะกร้าน ยียวยกวนบาทาได้ตลอด แต่แฟนคอมมิคคงรู้สึกว่าน่ารำคาญและเยอะเกินไป คือตัวละครตัวนี้บุคลิกทุกอย่างต่างๆนานาแทบจะกลายเป็น Joker Wanna be ซึ่ง Lex มันควรจะเป็นตัวละครที่น่าเกรงขามและฉลาด แต่ตัวละครที่ Jesse เล่นแทบจะเหมือนเกรียนที่พยายามจะสร้างตัวเองให้ดูโรคจิตอะไรทำนองนั้น ถือว่าเป็นตัวละครที่หลุดคอนเซ็ปของหนังไปโดยสิ้นเชิง
แฟนๆ marvel ที่อยากติดตาม ข่าวสารใหม่ๆ ที่อัพเดทใหม่ ทุกวันเกียวกับ จักรวาล marvel ง่ายๆ แค่คลิกที่นี่ รีวิวหนัง มีทั้งสปอยหนัง รีวิวหนัง และยังอีกมากมาย