รีวิว เดอะ โคเวแนนท์ หนังน่าดู 2023

รีวิว เดอะ โคเวแนนท์ วันนี้เราจะพาไปชมรีวิว หนังแนวสงคราม กันบ้างนะครับ หลายคนอาจจะไม่ชอบหนังสงครามเท่าไร แต่เพราะพล็อตเรื่องมันน่าสนใจ ดูตัวอย่างแล้วพบว่าอยากดูหนังเต็ม หนังที่มีคำแปลว่า ข้อตกลงร่วมกัน พันธะผูกพัน นี่มันจะเล่าเรื่องยังไง การที่คนหนึ่งคน จะลุยเดี่ยวเข้าไปเพื่อช่วยอีกคนที่เขารู้สึกเป็นหนี้บุญคุณ ให้รอดกลับออกมา นั่นแหละ คือหนังเรื่องนี้… ‘The Covenant’ ถ้าอดใจไม่ไหวแล้วก็ไปติดตามกันได้ที่ ดูหนังออนไลน์ กันเลยครับ

มาถึงเวลานี้ ถ้าเราจะให้เครดิตแก่ชายคนหนึ่งอย่าง Guy Ritchie ก็ยังเห็นว่าเป็น ‘Sherlock Holmes’ ทั้งที่ความจริง เขากำกับหนังมามากมาย เขียนบทมาก็หลายเรื่อง เขาคือคนเขียนบทและกำกับหนังอย่าง ‘Snatch’, ‘Lock, Stock and Two Smoking Barrels’ , ‘RocknRolla’ และ ‘The Man from U.N.C.L.E.’

หรือจะพูดถึงงานล่าๆ ของเขาอย่าง ‘The Gentlemen’ และ ‘Aladdin’ ก็ถือว่าไม่เลวเช่นกัน อาจเป็นเพราะงานของเขาไม่ได้โดดเด่นจนประทับอยู่ในใจผู้คนมากพอ แต่ในวันนี้ คุณอาจจะได้เจอหนังที่น่าประทับใจของเขาสักทีก็เป็นได้

เดอะ โคเวแนนท์ พระเอก

รีวิว เดอะ โคเวแนนท์ หนังสงครามน่าติดตาม

ฉากในตัวเรื่อง เดอะ โคเวแนนท์ เต็มเรื่อง ส่วนมากจะเป็นการจำลองการบุกอัฟกานิสถานเพื่อเข้าถล่มตะลีบันหลังเหตุการณ์ 911 โดยมี จ่าจอห์น คินลีย์ (รับบทโดย เจก จิลเลนฮาล, Jake Gyllenhaal) เป็นผู้บังคับบัญชา หลังจากล่ามแปลภาษาคนก่อนตายจากระเบิดแสวงเครื่อง อาเหม็ด (รับบทโดย ดาร์ ซาลิม, Dar Salim) ล่ามคนใหม่จึงถูกจ้างมาเพื่อบุกค้นหาและทำลายแหล่งผลิตระเบิดแสวงเครื่องของตะลีบัน

เดอะ โคเวแนนท์ ตัวละครหลัก

การทำภารกิจกำลังจะเสร็จลุล่วงไปโดยดีแต่ก็ต้องมาเจออุปสรรคเมื่อตะลีบันส่งกองทัพมาถล่มจน จอห์น คินลีย์ ได้รับบาดเจ็บสาหัส และด้วยความมีมนุษยธรรม อาเหม็ดจึงสร้างเปลแล้วเข็นร่างจอห์นผ่านหุบเขานับร้อยกิโลเพื่อส่งนายทหารอเมริกันกลับบ้าน แต่หลังเหตุการณ์ผ่านไปร่วมเดือนจอห์นจำเป็นต้องทำทุกทางเพื่อช่วยกลับไปช่วยเหลืออาเหม็ดที่อัฟกานิสถานแม้มันจะหมายถึงการที่เขาเอาชีวิตตัวเองไปเสี่ยงอันตรายอีกครั้งก็ตาม ถ้าชอบรีวิวของเราอย่าลืมติดตามที่ รีวิวหนังน่าดู

เนื้อเรื่องเกี่ยวกับสงครามในอดีต

เนื้อ เดอะ โคเวแนนท์ เรื่องย่อ หาจะพาเรานึกย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 11 กันยา สหรัฐฯ ตอบโต้ด้วยการส่งทหารลงไปในพื้นที่ตาลีบัน หนึ่งในนั้นคือ สิบเอก จอห์น คินลีย์ (Jake Gyllenhaal จากหนังเรื่อง ‘Prisoners’ และ ‘Nightcrawler’) ที่มีหน้าที่สืบหาแหล่งสะสมอาวุธและทำลาย เขากำลังมองหาล่ามคนใหม่เพื่อไปแทนคนเก่าที่เสียไป

เดอะ โคเวแนนท์

ครั้งนี้เขาจึงได้เลือก อาห์เหม็ด (Dar Salim จากซีรีส์เรื่อง ‘Game of Thrones’ และหนังเรื่อง ‘Black Crab’) แม้จะรู้ว่าชายอัฟกันคนนี้มีบุคลิกหัวดื้อ และควบคุมได้ยาก ก่อนที่ภารกิจที่เต็มไปด้วยอันตราย จะพาพวกเขาให้ต้องเผชิญชะตากรรมร่วมกัน และกลายเป็นเขารอดตายได้เพราะล่ามแปลภาษาคนนี้ แต่ก็ทำให้จอห์นรู้ตัวว่า เขาต้องกลับไปเพื่อช่วยล่ามคนนั้นออกมา ก่อนจะไม่เหลือลมหายใจให้ช่วยเหลือ ถ้าอยากอ่านรีวิวเรื่องอื่นติดตามได้ที่ รีวิว Ant-Man and The Wasp Quantumania 

หนังที่สร้างมาจากเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริง

หลายคนคงคิดว่าหนังของ ริทชี่ นั้นจะต้องมีการเปิดฉากแบบสโลว์ๆ เท่ๆ มีความตลกกวนๆ หรือต้องหักเหลี่ยมเฉือนคม แต่ไม่ใช่สำหรับหนังเรื่องนี้ ที่แทบจะเหมือนหนังสงครามจากเรื่องราวจริงเลยด้วยซ้ำ นี่มันเป็นหนังแนวแอคชัน ผสมทริลเลอร์ และอาจจะรวมดราม่าเข้าไปด้วยซ้ำ หนังจึงดูเคร่งขรึมจริงจังแต่ก็มีมุกเล็กๆ แทรกเข้ามานิดหน่อย

Guy Ritchie’s the Covenant มันคือภารกิจของทหารชาวอเมริกันที่ปฏิบัติภารกิจอยู่กลางแผ่นดินอัฟกัน พวกเขาคือคนขาวที่เป็นคนนอก ไม่เป็นที่ยอมรับของคนพื้นที่ และถือเป็นคนนอกศาสนา และแน่นอนว่า การที่คนในพื้นที่เลือกมาเป็นล่ามให้กับชาวอเมริกัน ย่อมถูกมองอย่างดูหมิ่น แต่สำหรับ อาห์เหม็ด ตัวเอกของเรื่อง เขามีเหตุผลที่ทำให้เกลียดตาลีบัน ซึ่งนั่นทำให้เขาทำงานร่วมกับทหารเมกันเหมือนแกงที่เคี่ยวจนเข้าเนื้อมากกว่าคนอื่น

รีวิว เดอะ โคเวแนนท์ สงครามและมิตรภาพ

ในความรู้สึกของผู้รีวิว หนังเรื่องนี้ก็ดูไม่ได้เร่งรีบจะเล่าให้เดินเรื่องฉับไวอะไรขนาดนั้น แต่กลับให้เวลาเล่าถึงสิ่งที่ตัวละคร 2 ตัวต้องใช้ร่วมกัน เพื่อบอกเล่าความหนักแน่นที่จะเกิดขึ้นภายหลัง หนังใช้ทัศนียภาพในแถบสเปน

การถ่ายทำครั้งนี้ถ่ายทำออกมาให้เหมือนกับเป็นอัฟกานิสถาน ผ่านมุมกล้องสวยๆ และบางจุดก็ใช้แฮนด์เฮลด์ที่ชวนให้รู้สึกสมจริงเข้าไปอีก เสริมด้วยเสียงสกอร์ที่ชวนรู้สึกอึดอัดแกมลุ้นระทึก ทั้งหมดรวมกัน ทำให้เรารู้สึกเอาใจช่วยตัวละครให้รอดพ้นจากพวกตาลีบันได้สำเร็จ

เมื่อมาสังเหตุในเนื้อหาของหนัง Guy Ritchie’s the Covenant พากย์ไทย จะได้รสชาติความเป็นอเมริกาอยู่ประมาณหนึ่ง กับการที่ทหารอเมริกันสักคนจะเห็นอกเห็นใจเพื่อนร่วมโลกที่ไม่ใช่คนขาว ถึงขั้นลุยเดี่ยวเข้าไปช่วยออกมาด้วยตนเอง แม้รู้ตัวว่ามีโอกาสตายได้ก็ตาม แต่ด้วยความที่หนังสร้างความรู้สึกเอาใจช่วยให้เกิดขึ้นในใจผู้ชมได้ มุ่งเน้นเรื่องของมิตรภาพระหว่างคนสองคนที่ไม่ได้สนใจเรื่องเชื้อชาติ

บอกเล่าถึงความรู้สึกเป็นหนี้บุญคุณที่ต้องตอบแทนเพื่อปลดเปลื้องความหนักอึ้งในใจ จึงทำให้แง่มุมพวกนั้นมันเบาบางลงไป ส่วนหนึ่งของหนัง พยายามจะแทรกเล่าถึงความไม่เอาไหนในการทำงานของรัฐ จนเป็นสาเหตุใดหนึ่งทหารอเมริกันต้องลุยเดี่ยวซะเอง ก็พอจะบอกได้ว่า หนังไม่ได้เน้นจะอวยแต่เพียงถ่ายเดียว

ฉากยิงกันสนั่นเมืองที่หลายคนชื่นชอบ

ตัวหนัง เดอะ โคเวแนนท์ สปอย มีฉากยิงกันแบบสนุกๆ มันๆให้ดูหลายฉาก ที่ให้เราลุ้นความเป็นตายที่เผชิญอยู่ด้านหน้า คนดูได้แต่ลุ้นว่าตัวเอกจะรอดมั้ย เมื่อรวมกับการแสดงของ เจค จิลเลนฮาล และ ดาร์ ซาลิม มันเสริมให้เรื่องราวที่เป็นเรื่องเล่านี้ดูสมจริงได้อย่างไม่น่าเชื่อ แม้กระทั่งตอนจบ เรายังสงสัยอยู่เลยว่า นี่เรื่องจริงหรือแต่งกันแน่

แต่สิ่งที่เห็นได้ชัดสำหรับหนังเรื่องนี้คือแม้มันจะไม่ได้เป็นหนังมาจากเรื่องจริงแต่กลับหยิบประเด็นที่น่าสนใจอย่างล่ามแปลภาษาในสงครามต่างแดนที่มักถูกดันไปเป็นตัวประกอบในหนังสงคราม ให้มีความสำคัญและเป็นภารกิจที่ตัวละครเอกอย่าง จ่าจอห์น คินลีย์ ต้องไปปฏิบัติภารกิจระห่ำตอนท้ายเรื่อง

บอกไว้ก่อนเลยว่าถ้าจะมาหวังเห็นฉากดราม่าน้ำตาแตกแบบหนังสงครามอเมริกัน หรือมีโควตรักชาติสไตล์ฮอลลีวูดขอบอกเลยว่าอย่ามาหวังกับหนังชื่อ ‘Guy Ritchie’s The Covenant’ เพราะตลอดเวลาร่วม 2 ชั่วโมงหนังถูกขับเคลื่อนด้วยความเป็นหนังแอ็กชัน ทริลเลอร์เต็มสูบแบบแทบไม่ได้หายใจหายคอ โดยสอดแทรกมุกตลกเบา ๆ ผิดวิสัยกาย ริตชีเต็มไปหมด

ในหนังมีการวิจารณ์เกี่ยวกับการเมืองที่ต่างจากก่อนนี้ที่มักไปสำรวจวัฒนธรรมเฉพาะถิ่นชาวไอริช หรือทำหนังจากวรรณกรรมดัดแปลงให้มีความบ้าคลั่งไปเลย แต่กับ ‘Guy Ritchie’s The Covenant’ มันกลับมีแมสเซจด้านการเมืองชัดเจนตรงไปตรงมาโดยเฉพาะตอนจบที่พูดถึงชะตากรรมอันน่าเศร้าของบรรดาล่ามแปลภาษาหลังอเมริกาถอนทหารออกจากอัฟกานิสถาน

รีวิว เดอะ โคเวแนนท์ ไปติดตามรับชมได้แล้ววันนี้

เมื่อหนัง Guy Ritchie’s the Covenant รีวิว นั้นได้ถูกปิดป้ายไว้ว่านี่คือหนังสงคราม (War Film) เรื่องดราม่ามันจะออกมาจากตัวละครได้ง่ายๆ ตั้งแต่ความกลัวในแววตาของจ่าจอห์น คินส์ลีย์ ที่ เจก จิลเลนฮาล แสดงไว้ได้อย่างยอดเยี่ยมหรือความกล้าหาญและเมตตาธรรมของอาเหม็ดที่ถูกถ่ายทอดได้อย่างเป็นธรรมชาติและน่าชื่นชมของดาร์ ซาลิม

สิ่งที่ทำให้ความดราม่าของหนังแนวนี้ออกมาสวยงามก็คือการกำกับเรื่องภาพของ เอ็ด ไวลด์ (Ed Wild) ที่ใช้ภาพมุมเงย (Worm Eye View) มาแทนสายตาของ จ่าจอห์น คินส์ลีย์ ตอนนอนอยู่บนเปลที่ถูกเอามาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพในฉากสำคัญของหนัง

หรือความดีงามมาก ๆ อย่างหนึ่งในฐานะคนที่ต้องชมภาพยนตร์จากแถวที่ 3 ของหน้าจออย่างผมในรอบสื่อคือการออกแบบภาพของมันดันสอดรับกับการชมในระยะใกล้จอมาก ๆ ส่งผลต่ออารมณ์ในการรับชมได้ดีทีเดียว

ถ้าจะต้องกล่าวถึงข้อเสียหรือจุดพลาดที่เห็นได้ในหนัง อีกทั้งยังมีการตัดสินใจของ จอห์น คินส์ลีย์ ที่ใช้ฝันร้ายและหนี้ชีวิตมาขับเคลื่อนตัดสินใจ แม้เราจะได้ฉากเข็นเปลสุดทรหดอาเหม็ดมาช่วยก็ตาม หรือกระทั่งเรื่องราวในองก์ 2-3 ที่ดูจะสั้นจนผิดปกติ แถมอุปสรรคใด ๆ

อาจจะยังไม่เข้มข้นเท่าเรื่องราวในองก์แรกของหนัง แต่เอาเถอะเมื่อเทียบกับประสบการณ์เหงื่อซึมมือลุ้นจนมือจิกเบาะทั้งเรื่องแล้ว ‘Guy Ritchie’s The Covenant’ ก็ยังเป็นหนังที่ควรค่าแก่การชมในโรงภาพยนตร์อยู่ดีครับ

รายละเอียดเกี่ยวกับหนัง
ชื่อภาพยนตร์ Guy Ritchie’s the Covenant / เดอะ โคเวแนนท์
กำกับ Guy Ritchie
เขียนบท Ivan Atkinson, Marn Davies, Guy Ritchie
แสดงนำ Jake Gyllenhaal, Dar Salim, Sean Sagar
แนว/ประเภท แอ็คชัน, ระทึกขวัญ
เรท R
ความยาว 123 นาที
ปี 2023
สัญชาติ สหรัฐอเมริกา
เข้าฉายในไทย 20 เมษายน 2023
ผลิต/จัดจำหน่าย Fresco Film Services, STX Films, Toff Guy Films, T&B Media Global
เดอะ โคเวแนนท์