รีวิวหนัง Your Place or Mine รักสลับบ้าน – ภาพยนตร์โรแมนติกคอมเมดี้
หากพูดถึง หนังน่าดู แนวรักโรแมนติกตลกสุดฟินในปี 2023 จะนึกถึงเรื่องใดไม่ได้เลย นอกจากหนังเรื่อง Your Place or Mine รักสลับบ้าน วันนี้เรา reviewnungdeeonline จะพาทุกคนโคจรมาพบกับนักแสดงที่ได้ชื่อว่าเป็นตัวแม่กับตัวพ่อของหนังรอมคอมสไตล์นี้ กลายเป็นเหตุให้ “Your Place or Mine รักสลับบ้าน” ดูสะดุดตาและน่าสนใจยิ่งขึ้น หลังจากค่ำคืนแห่งรักเร้าร้อนในปี 2003 หนุ่มสาวคู่หนึ่งก็ลงเอยจากกิ๊กชั่วคืนกลายเป็นแค่เพื่อนซี้ตลอดชีวิตของกันและกัน การกลับมาอีกครั้งของคู่พระนางตำนาน ถึงแม้ว่าสำหรับบางคนและภาพยนตร์แนวโรแมนติกคอมเมดี้อาจจะไม่ใช่ภาพยนตร์ที่สามารถตอบโจทย์เรื่องความบันเทิงได้สักเท่าไหร่ เพราะมันก็ไม่ต่างอะไรจากการที่เรานั่งดูชีวิตรักธรรมดาทั่วไปของคนอื่นที่ไม่ได้มีความแตกต่างจากเรื่องราวของตนเองเลยแม้แต่น้อย สุดท้ายนี้หากคุณ กำลังมองหาอะไรใหม่ ๆ สามารถไปติดตาม ดูหนังใหม่ ได้ที่นี่ doonungonline
รีวิวหนัง Your Place or Mine รักสลับบ้าน หนังรอมคอมฟีลกู๊ดสูตรสำเร็จ
สำหรับเรื่องนี้นับว่าเป็นหนังรอมคอมฟีลกู๊ดสูตรสำเร็จอีกเรื่องหนึ่ง Your Place or Mine รีวิว ทุกอย่างมาแบบสูตรสำเร็จทั้งหมด นับตั้งแต่การเปิดเรื่อง การดำเนินเรื่อง รวมถึงพัฒนาการของตัวละคร บทเขียนมาได้กลางๆ แอบไปทางแย่ด้วยซ้ำ เพราะบทไม่ค่อยมีความน่าสนใจเท่าไหร่ ออกจะซ้ำซากและเดาได้หมดทุกจุด แต่ถึงอย่างนั้นภาพรวมก็ยังอยู่ในจุดที่พอรับได้ ถึงจะไม่ได้น่าติดตามมากแต่ก็ดูสนุกเพลินๆ ไปได้จนจบ การวางตัวละครมาแบบง่ายๆ ให้นางเอกเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวขี้กลัวและล้าหลังเป็นสาวเจน X
ส่วนพระเอกเป็นผู้ชายที่ใช้ชีวิตไปวันๆ แต่ก็ร่ำรวย เพียงแต่ไม่เคยรักใครจริง ด้วยให้เราเข้าใจว่าทั้งคู่ต่างกันมากจึงทำให้คบกันเป็นได้แค่เพื่อน มีสิ่งเดียวที่เหมือนกันคือชอบอ่านหนังสือ ส่วนตัวผมมองว่าเส้นเรื่องในฝั่งนางเอกที่ไปอยู่นิวยอร์กนั้นออกจะน่าเบื่อและไม่ค่อยน่าติดตามเท่าไหร่ ยังดีที่มีตัวละคร Minka (รับบทโดย Zoë Chao) เข้ามาช่วยทำให้ในส่วนของนางเอกดีขึ้นมาบ้าง
ข่าวการร่วมงานกันของดาราสายรอมคอมแห่งยุคนั้นทั้งสาวผมบลอนด์ยิ้มละลายใจจาก ‘Legally Blonde’ (2001) อย่างดาราสาว รีส วิเธอร์สปูน (Reese Witherspoon) และดาราหนุ่มดวงตาเซ็กซี่จาก ‘A Lot Like Love’ (2005) อย่าง แอชตัน คุชเชอร์ (Ashton Kutcher) จึงเหมือนมาเติมเต็มความฝันให้แฟนคลับเมื่อ 20 กว่าปีก่อนได้อย่างดี ยิ่งน่าประหลาดใจว่าทั้งคู่
แม้จะมีหนังแนวเลิฟคอมเมดี้หลายเรื่องและดังในห้วงเวลาเดียวกัน แต่ ‘Your Place or Mine’ กลับเป็นหนังเรื่องแรกที่ทั้งคู่ได้มาร่วมงานกัน และน่าตลกมากที่ผู้กำกับสาวสายนักเขียนบทที่มาลองทำหนังยาวเรื่องแรกอย่าง เอลีน บรอช แมกเคนนา (Aline Brosh McKenna)
ซึ่งมีผลงานผ่านปลายปากกามาแล้วใน ‘The Devil Wears Prada’ (2006) ยังเลือกที่จะให้ทั้งสองนักแสดงที่ไม่เคยร่วมงานกันนี้ ได้พบกันจริง ๆ แทบจะฉากเดียวจากทั้งเรื่องด้วย เป็นตลกร้ายที่แกล้งคนดูที่อยากเห็นทั้งคู่ร่วมเฟรมกันเยอะ ๆ ไม่เบาเลย แต่ก็สะท้อนให้เห็นความยั่วยิ้มของแมกเคนนาซึ่งยังคอยแหย่คนดูเรื่อย ๆ ตลอดเรื่องด้วย
เรื่องย่อ Your Place or Mine รักสลับบ้าน
your place or mine เรื่องย่อ เป็นเรื่องราวของ เด็บบี้ กับ ปีเตอร์ พวกเขาเป็นเพื่อนซึ้กันมายาวนาน ตั้งแต่สมัยเรียน แม้ว่าจะมีชีวิตที่ตรงกันข้ามคนขั้วเลยก็ตาม เธอมีกิจวัตรหลัก ๆ อยู่ดูแลลูกชายในลอสแองเจลิส ขณะที่เขาย้ายไปเติบโตและวางรากฐานตัวเองอยู่ที่นิวยอร์ก เมื่อพวกเขาตัดสินใจสลับบ้านกันในชีวิตเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ ทำให้ได้ค้นพบว่าสิ่งที่พวกเขาต้องการอาจจะไม่ใช่สิ่งที่ต้องการจริง ๆ ในชีวิตนี้
เคมีที่ลงตัวระหว่าง รีส วิเธอร์สปูน และ แอชตัน คุชเชอร์
หนัง Your Place or Mine คือแค่ได้ยินชื่อ “รีส วิเธอร์สปูน” กับ “แอชตัน คุชเชอร์” มาจอยในหนังโรแมนติกด้วยกัน ก็ทำให้หูตาสว่างไปด้วยความตื่นเต้นแล้ว เพราะพวกเขาถือเป็นสมบัติอันล้ำค่าของหนังแนวนี้ และต่างก็เคยได้รับตำแหน่งกับฉายาว่า ตัวแม่ กับ ตัวแม่ หนังรอมคอม ในช่วงยุคปี 2000s ด้วย ดังนั้นการมาจับคู่บนจอครั้งนี้ของพวกเขา
ถือว่าเป็นการจับคู่เคมีที่เหมาะเจาะและเป็นสิ่งที่แฟนหนังรักรอคอยมานานแสนนานแล้ว แต่กระนั้นก็แอบรู้สึกเสียดายอยู่หน่อย ๆ เพราะดูเหมือนว่าเขาจะมาจับคู่กันในช่วงเวลาที่ค่อนข้างช้าเกินไป รีส วิเธอร์สปูน ที่ถึงแม้เธอจะยังคงเป็นไอค่อนหลักให้กับหนังรอมคอมจนถึงทุกวันนี้ แต่การโดดมารับผลงานชิ้นนี้กลับไม่ใช่อะไรที่ท้าทายตัวเองสักเท่าไหร่
เช่นเดียวกับ แอชตัน คุชเชอร์ ที่เลิกเล่นหนังรักไปเป็นทศวรรษแล้ว กลับมาคราวนี้เขาต้องปัดฝุ่นสเกลให้กับตัวเองพอประมาณทีเดียว ตั้งแต่ฉากเปิดเรื่องเราก็ได้เห็นลีลาการเล่าที่ยียวนไม่ธรรมดาของหนัง เมื่อหนังเลือกใช้ข้อความตัวหนังสือมาเล่าเรื่องราวเสริมกับภาพว่าเหตุการณ์นี้เกิดในปี 2003 เพราะแฟชั่นและสิ่งของต่าง ๆ ที่ปรากฏในฉากมันบอกสมัยทั้งหมดเลย
จากนั้นเพียงไม่กี่นาทีก็กระชากฟีลคู่รักหวานชื่นตัดฉับข้ามมาอีก 20 ปี แล้วพบว่าความสัมพันธ์ของทั้ง เดบบี้ และ ปีเตอร์ นั้นไม่ได้สวยงามชวนฝันอย่างที่คิดเลย จนเราก็อยากรู้ว่าอะไรทำให้ทั้งสองคนที่ดูเข้ากันดีเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้ ฝ่ายหนึ่งหนีไปนิวยอร์กทำเงินมากมายแต่ทิ้งความฝันการเป็นนักเขียนไป แถมยังคบสาวไปเรื่อยไม่ยอมลงหลักปักฐานเสียที
ส่วนฝ่ายสาวก็กลายเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวที่มีอะไรในชีวิตต้องจัดการมากมาย ทั้งลูกชายที่ป่วยสารพัดโรคและการงานที่ไม่มั่นคง จนเธออยากไปสอบเอาวุฒิมาสมัครงานที่ดีกว่า เพียงแต่ต้องจากแอลเอไปเรียนระยะสั้นที่นิวยอร์ก ซึ่งปัญหาคือแล้วใครจะดูแล แจ็ก ลูกชายของเธอให้ล่ะ ถ้าไม่ใช่เพื่อนชายแสนดีที่ยอมให้เธอสลับบ้านกันกับเขาชั่วคราว
จุดที่แอบผิดหวังในเรื่อง Your Place or Mine รักสลับบ้าน
จุดที่น่าผิดหวังอยู่หน่อย ๆ ก็คงจะเป็นการมาเจอกันของ รีส กับ แอชตัน แต่พวกเขากลับแทบจะไม่มีซีนเข้าฉากด้วยกันเลยด้วยซ้ำ ตลอดหนังทั้งเรื่องน่าจะมีการร่วมฉากกันแทบไม่ถึง 5 นาที กลายเป็นจุดที่ทำให้คอหนังรักอย่างเรา ๆ รู้สึกฝันสลายไปเบา ๆ ถึงแม้ว่าการแสดงและเคมีของพวกเขานั้นจะยังคงทำออกมาได้อย่างเป็นมืออาชีพไม่มีบกพร่อง แต่ก็เสียดายที่ยังไม่ใช่ผลงานที่ดีอะไรของพวกเขาเท่าไหร่
แต่อย่างไรก็ดีแมกเคนนาเองก็ทราบดีว่านี่คือหนังรอมคอม ประเด็นหนัก ๆ ที่ว่ามันเลยถูกถ่ายทอดผ่านสายตาของคนที่เข้าใจชีวิตมาระดับหนึ่งและยอมรับมันไม่ได้มาฟูมฟายอะไร และปล่อยให้มวลความอบอุ่นฟีลกู้ดชวนอมยิ้มทำงานไปตลอดทั้งเรื่องสำเร็จ น่าเสียดายว่าวิเธอร์สปูนกับคุชเชอร์แม้จะมีหลายฉากที่ตอบโต้กันได้น่ารักดี แต่พอไม่ได้อยู่ในพื้นที่เดียวกันไม่ได้ส่งพลังการแสดงอะไรให้กัน
มีเพียงเสียงที่ผ่านโทรศัพท์เราเลยอาจไม่ค่อยอินกับเคมีความเข้ากันที่มันเกิดขึ้นอย่างเบาบาง ซึ่งก็เป็นความเสี่ยงที่ผู้กำกับคงยอมแลกดู และเมื่อทั้งคู่มาพบกันในที่สุดเราก็พบว่ามันยิ่งทำให้เราเชื่อได้ยากว่ามันจะรวบรัดลงเอยกันง่าย ๆ ได้แบบนั้นจริง แม้ไม่มีอะไรที่ให้อยากจดจำเป็นพิเศษหรือสร้างบทสนทนาตามหลังขึ้นมาหลังดูจบเลยก็ตาม อย่างไรก็ดีนี่เป็นหนังรอมคอมที่อาจธรรมดาแต่ดูได้เพลิน รื่นตารื่นหูรื่นใจไร้พิษภัยเรื่องหนึ่งเลย
รีวิวหนัง Your Place or Mine รักสลับบ้าน งานสร้างของผู้กำกับหญิง อาลีน บรอช แมคเคนนา
Your Place or Mine กับงานสร้างของผู้กำกับหญิง “อาลีน บรอช แมคเคนนา” (มือเขียนบทจาก The Devil Wears Prada) ที่รับหน้าที่ทั้งกำกับและเขียนบทด้วยนั้น ก็ถือว่าทำออกมาได้ตามมาตรฐาน ไม่มีอะไรโดดเด่น และทำให้รู้สึกว้าวแตกต่างไปจากหนังรักเรื่องอื่น ๆ เท่าไหร่นัก ก็ยังเป็นหนังรักที่ใช้สูตรเดิม ๆ วนอยู่ในอ่าง เพลย์เซฟไปตลอดทั้งเรื่อง
พร้อมกับใส่พล็อตรักแนวเพ้อ ๆ จังหวะฟุ้ง ๆ เข้ามาเกือบจะเอียน หนังเต็มไปด้วยความจำเเจที่แทบจะหาอะไรแปลกใหม่ไม่ได้เลย แต่มันก็ยังพอเปิดดูได้เพลิน ๆ เรื่อย ๆ แบบไม่คิดอะไร เพราะแค่มีนักแสดงนำคู่นี้ก็ถือว่าอุ่นใจได้ในระดับหนึ่งแล้ว
แม้ว่าโครงสร้างและองค์ประกอบอื่น ๆ แทบจะไม่มีอะไรให้น่าพิสมัยเท่าไหร่ก็ตาม มันคงจะเป็นหนังรอมคอมที่มาเพียงทำหน้าที่คั่นเวลา แบบที่ไม่ได้คำนึงว่าจะต้องเป็นหนังที่ดิบดีอะไรเท่าไหร่ และอยากจะโยนพล็อตนั่นพล็อตนี้เข้ามาก็ทำได้ตามใจชอบ
ในความธรรมดาก็ต้องบอกว่าแมกเคนนายังไว้ลายนักเขียนบทหนังได้ดี ด้วยการหยอดรายละเอียดเล็ก ๆ ใส่มาตลอดทั้งนิสัยที่ว่าไม่ชอบเก็บของที่ชวนให้รำลึกถึงอดีต แต่เอาจริงเพลงที่เขาฟังตลอดก็คือเพลงที่เปิดปมเรื่องพ่อในใจเขาเสมอ เหล่านี้มันค่อย ๆ ทำให้เห็นว่าพวกตัวละครเหล่านี้มีความลึกของชีวิตจิตใจ ไม่ได้เป็นแค่ตัวละครในหนังรอมคอมโง่ ๆ ที่เล่นไปตามสูตรแล้วเดี๋ยวก็รักกันเอง
เราได้ลุ้นกับความยากในการที่ทั้งคู่จะพบกัน (และคบกัน) เพราะเมื่อหนังเดินเรื่องไปเราก็ทราบว่ามันมีปมบางอย่างในใจที่มากกว่าแค่ความปากแข็ง แต่มันมีพื้นฐานความกลัวที่จะสูญเสียความสัมพันธ์ที่ดีมากอยู่แล้วไปด้วย เรียกได้ว่าทั้งคู่ต่างกลัวที่จะเดินบนเส้นทางแห่งน้ำตาหรือเวย์ทูคราย เพราะต่างเคยสูญเสียและผิดหวังอะไรบางอย่างที่รุนแรงในอดีตมาแล้ว
สรุปโดยรวมหลังดู Your Place or Mine รักสลับบ้าน
Your Place or Mine รักสลับบ้าน 2023 ส่วนของการแสดงอันนี้คือตามมาตรฐานมากๆ เพราะนักแสดงในเรื่องก็มีแต่นักแสดงสายคอเมดี้อยู่แล้ว ส่วนพระนางก็มาสายรอมคอมเป็นทุนเดิม ดังนั้น การแสดงจึงไม่ได้มีอะไรโดดเด่นเป็นพิเศษ ทุกคนทำหน้าที่ของตัวเองได้ดี ส่วนในด้านของงานภาพและการโปรดักชั่นอันนี้ก็อยู่ในระดับธรรมดาทั่วไปเช่นกัน ไม่มีอะไรที่โดดเด่นเป็นพิเศษ สรุปโดยรวมเลยคือหนังเรื่องนี้เป็นหนังรอมคอมธรรมดาบ้านๆ ที่ดูจบแล้วรู้สึกดีน่ารักและฟีลกู๊ด พอดูได้สนุกเพลินๆ เหมาะกับคนที่หาอะไรดูแก้เบื่อ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าผมจะบอกว่าผมเฉยๆ แต่ก็ไม่ได้แปลว่าทุกคนจะรู้สึกเหมือนกัน เพราะรีวิวนี้เป็นเพียงความรู้สึกส่วนตัว คุณอาจจะหลงรักและชอบหนังเรื่องนี้มากๆ ก็ได้ รสนิยมคนเราต่างกัน ทางที่ดีที่สุดคือทุกคนต้องไปรับชมด้วยตาตัวเอง
ประเภท: ตลก / โรแมนติก
ผู้กำกับ: อาลีน บรอช แมคเคนนา
นำแสดงโดย: รีส วิเธอร์สปูน, แอชตัน คุชเชอร์
ความยาว: 109 นาที
กำหนดฉายในไทย: 10 กุมภาพันธ์ 2023
รีวิวหนัง Roald Dahl’s Matilda the Musical ภาพยนตร์คอมเมดี้แฟนตาซี ที่คุณไม่ควรพลาด!