รีวิวหนัง VENOM 2
รีวิวหนัง VENOM 2
Venom 2 HD เต็มเรื่อง ภาคนี้ดำเนินเรื่องราวต่อจากภาคแรก หลังจาก อดีตนักข่าวชื่อดัง เอ็ดดี บล็อก ได้ร่วมใช้กันออกปฎิบัติการเป็นคู่หูปราบอธรรมกับ เวนอม ปรสิตจากต่างดาวที่เข้ามาอาศัยร่างของ เอ็ดดี แต่กลับกันเรื่องการงานและความสัมพันธ์กับ แอนน์ อดีตคู่หมั้นสาวยังแย่ลงเหวเช่นเหมือนเคย ในภาคนี้เหมือนเขาจะมีโอกาสกลับมาเฉิดฉายอีกครั้งเมื่อเขาได้รับการติดต่อจาก คลีตัส แคสซาดี ฆาตกรต่อเนื่องชื่อดังให้สัมภาษณ์พิเศษถึงในคุก และนั่นกลายเป็นจุดเริ่มต้นของความวายป่วงที่ตามมาไม่สิ้นสุด
ในภาคแรก ‘Venom’ (2018) เป็นผลงานการกำกับของ รูเบน เฟลสเชอร์ (Ruben Fleischer) ผู้กำกับที่สร้างชื่อจากงานอย่าง ‘Zombieland’ (2009) โดยเป็นความพยายามที่จะสร้างตัวร้ายจากจักรวาลหนังสไปเดอร์-แมนที่โซนี่ถือสิทธิ์สร้างภาพยนตร์เอาไว้ให้ภาพลักษณ์เป็นแอนตี้ฮีโร่ เพื่อที่จะนำมาเจอกับ ปีเตอร์ ปาร์กเกอร์ หรือ สไปเดอร์-แมน ฉบับของ ทอม ฮอลแลนด์ (Tom Holland) หรืออาจจะนำมาทำหนังรวมดาวร้ายอย่าง แก๊ง Sinister Six ในจักรวาลหนังสไปเดอร์เวิร์สของตนเองโกยเงินรับทรัพย์ต่อไป
VENOM นั้นถือว่าเป็นตัวละครที่น่าสนใจเพราะว่ามันไม่เชิงเป็น Superhero ซะทีเดียวและเป็นตัวละครที่หลายๆคนน่าจะค่อนข้างชอบและติดตามกันในกลุ่มาสาวก Spiderman แน่นอน และหลังจากที่ทาง SONY เองได้หยิบมาทำหนังในภาคแรกก็ถือว่า กระแสในแง่ของคุณภาพหนัง บทต่างๆไม่ได้ดีเท่าไร แต่ได้ใจแฟนๆทั้งหมดเพราะว่าดูเอาสนุบันเทิงได้ดี จึงทำภาคต่อออกมาซึ่งก็จะเล่นประเด็นต่อจากเรื่องแรกทันทีครับแน่นอนว่าครั้งนี้เราจะได้เห็นตัวละครที่ต้องบอกว่าหลายๆคนรอติดตามคือ CARNAGE นั้นเองซึ่งหลายๆคนก็น่าจะคาดหวังกันไว้เยอะพอสมควร แต่ทั้งนี้หลังจากที่ได้ดูกลับเจอจุดที่น่าบ่นหลายเรื่องมากๆ และ ตัวหนังกลับทำได้แย่กว่าภาคแรกซะอีก ทั้งตัวบท ตัวละคร หรือแม้แต่ความสนุก จุดพีคอะไรของหนังที่ทำได้ธรรมดา กลายเป็นว่า Endcredit นั้นพีคและตื่นเต้นกว่าหนังทั้งหมด
ดูหนัง VENOM 2 Let there be carnage
และในภาพรวมถือว่าหนังภาคแรก ก็ไม่ได้เล่นท่ายากในการเล่าเรื่องเพื่อรับประกันความสำเร็จไปแล้ว พอมาภาคนี้ได้มีการเปลี่ยนผู้กำกับมาเป็น แอนดี้ เซอร์คิส (Andy Serkis) นักแสดงที่มีชื่อเสียงด้านการแสดงตัวละครโมชันแคปเจอร์ อย่าง กอลลัม หรือ ซีซาร์ แต่สำหรับผลงานด้านการกำกับยังต้องพิสูจน์ตัวต่อไป เพราะผลงานอย่าง ‘Mowgli’ (2018) นั้นยังเทียบความสนุกกับฝั่ง ‘The Jungle Book’ (2016) ของดิสนีย์ที่ออกฉายก่อนแทบไม่ได้เลย
หนังใช้เรื่องราวจากไอเดียของ เคลลี มาร์เซล (Kelly Marcel) ที่ร่วมเขียนบทในภาคแรก กับ ทอม ฮาร์ดี้ (Tom Hardy) ที่ควบตำแหน่งนักแสดงนำและผู้อำนวยการสร้างของหนัง โดยดัดแปลงเนื้อหาในคอมมิกช่วง ‘Maximum Carnage’ ที่คาร์เนจร่วมมือกับชรีก อาชญากรสาวที่ใช้พลังเสียงตั้งตนเป็นพ่อแม่ของแก๊งวายร้ายออกจู่โจมเมืองนิวยอร์กและต้องปะทะกับกลุ่มฮีโร ซึ่งรวมถึงสไปเดอร์-แมนและเวนอมด้วย โดยปรับความสัมพันธ์ของคาร์เนจกับชรีกให้เป็นคู่รักในโรงเรียนดัดสันดานที่ถูกจับให้พลัดพรากกันแทน ซึ่งเอาจริงก็ดูน่าสนใจขึ้น ตัวละครมีมิติมากขึ้น ทว่าก็ยังติดปัญหาบางอย่างที่จะขอยกยอดสรุปในทีเดียว
และแม้หนังจะมีศักยภาพที่หนักขึ้นได้ โหดขึ้นได้ เป็นหนังเรต R เต็มตัว เพราะเมื่อรวมกับเรื่องที่เวนอมกับคาร์เนจนั้นต้องมีการเขมือบหัวคนสด ๆ โชว์หน้ากล้องตั้งแต่ภาคแรกอยู่แล้ว ยิ่งในภาคนี้ร่างหลักของคาร์เนจเป็นฆาตกรต่อเนื่องที่บารมีความน่ากลัวน่าจะมีมากกว่าตัวร้ายอย่าง ไรออต ในภาคแรกที่อย่างน้อยฉากการต่อสู้ของไรออตกับเวนอมมันก็ดุดัน ยิ่งใหญ่ และเร้าใจ
แต่สุดท้าย venom 2 เต็มเรื่อง ไม่มีโฆษณา ก็ยังติดกับเรต PG-13 และความพยายามเป็นหนังตามสูตรที่ใครก็เข้าใจง่ายจนมากเกินไป จึงทำให้หนังไม่พยายามทำตัวมีเหตุมีผล มีความเป็นคนที่มีชีวิตจิตใจจริง ๆ เท่าไร เหมือนเรากำลังดูตัวการ์ตูนที่ทำสิ่งต่าง ๆ เพราะมันเขียนอยู่ในบท เพื่อให้มันเกิดฉากถัดไปและถัดไปอยู่เสมอ จนเหมือนฉากชนฉาก ไม่มีเวลาให้กับการเล่าความคิดจิตใจตัวละครอย่างจริงจัง จนหนังมีความยาวเพียง 97 นาที น้อยที่สุดในบรรดาหนังฮีโรในปัจจุบันกันเลยทีเดียว และน่าเสียดายที่หนังได้นักแสดงมากฝีมือมามากมาย แต่แทบไม่ได้ใช้ประโยชน์จากจุดนี้
หลายการกระทำอย่างการย้อนคิดถึงอดีตก็ดูเชยและยัดเยียดเกินจำเป็นอย่างเห็นได้ชัด ฉากต่อสู้ก็ไม่ได้โดดเด่นจนรู้สึกคาร์เนจมีเอกลักษณ์อะไรน่าจดจำนัก นอกไปจากฉากการเปลี่ยนร่างที่ดูน่าสยดสยองขึ้น เมื่อเทียบกับไรออตที่เปลี่ยนอวัยวะเป็นอาวุธหลายรูปแบบขณะสู้ยังดูมีอะไรให้เล่นได้มากกว่า
มุกที่พยายามใส่เข้ามาก็ออกทางฝืดเสียส่วนมาก เหมือนเอาผู้ใหญ่ที่ไม่ทันมุกสมัยใหม่มาคิดบทให้คนดูหนังรุ่นใหม่ขำ ดูแค่วัตถุดิบของหนังจริงแล้วมันน่าจะเป็นหนังคู่หูตลกร้ายที่มีตัวชงตัวตบได้ตลอดเวลาแบบสนุก ๆ เลย แต่มันก็ไปไม่ถึง กลายเป็นหนังแอนตี้ฮีโรที่ดูเพลิน ๆ ให้มันจบไป เพื่อเอาข้อมูลไปดูเรื่องอื่นในจักรวาลสไปเดอร์เวิร์สต่อเท่านั้น เว็บดูหนังฟรี
และเนื้อหาในส่วนของฝั่งบล็อกกับเวน่อมนั้น ใช้สืบเนื่องจากหนังในภาคแรกมาต่อทันที โดยแทบไม่ได้ปูพื้นใหม่จึงควรดูหนังในภาคแรกมาก่อน แต่ในภาคนี้ก็จะลดเรื่องราวปลีกย่อยลง โลกในหนังดูเล็กลงและอยู่ในสถานที่ไม่กี่แห่ง ตัวละครไม่กี่คน แม้แต่ช่วงที่คาร์เนจอาละวาดหนักสุด เราก็ไม่ได้เห็นความหวาดผวาของเมืองมากเท่าที่ควร ราวกับว่าไม่มีใครรู้เลยว่ามีปีศาจระดับภัยพิบัติอาละวาดอยู่กลางเมืองนอกจากพวกตัวเอกที่เกี่ยวข้องโดยตรง
เนื้อเรื่องที่น่าติดตาม Venom 2
จะว่าไปแล้วหนังตัวละครวายร้ายของสไปเดอร์แมนอย่างวีนอม ถูกสลัดคราบ “ผู้ร้าย” ออกเพื่อทำให้ผู้ชมรู้สึกว่าอยากจะเอาใจช่วยให้ตัวละครนี้สามารถคลี่คลายปมของตัวเองให้บรรลุเป้าหมายในตอนท้ายของหนังภาคแรก อย่างที่คนดูทราบว่าเอ็ดดี้ (ทอม ฮาร์ดี้) ถูกปรสิตต่างดาวอย่างวีนอมยึดครองร่าง เพื่อความอยู่รอด แม้การปรับตัวเข้าหากันของทั้งสองฝ่ายในช่วงแรกไม่ใช่เรื่อง่ายเอาเสียเลย แต่พวกเขาก็พิสูจน์ให้เราเห็นว่า สุดท้ายแล้วทั้งคู่ล้วนแล้วแต่จำเป็นต้องพึ่งพาอาศัยกัน
ช่วงเวลาก่อนที่วีนอมจะมารวมร่างกับเอ็ดดี้ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าตัวเอ็ดดี้เองจัดเป็นคนอีโก้สูงแต่ความสามารถต่ำ ความหยิ่งทะนงตนของเขาไม่ได้จางหายไปไหนแต่ยังคงแอบซ่อนฝังรากลึกอยู่ในตัว เช่นเดียวกับทางฝั่งวีนอมเองที่ทำอะไรตามใจ ปากไม่มีหูรูด และหิวเลือดสดๆอยู่ตลอดเวลา ดูหนังออนไลน์ฟรี
หลังจากที่ทั้งสองอยู่ร่วมตัวติดกันเป็นเวลาเนิ่นนาน ส่งผลให้ทั้งคู่เกิดความเอือมระอาต่อกันและกัน จนวันหนึ่งความสัมพันธ์ของถึงสองเดินมาสู่จุดแตกหักทำให้พวกเขาตัดสินใจ “ห่างกันสักพัก” แต่ห่างได้ไม่นาน เมื่อพวกเขาพบว่า “คาร์เนจ” ซึ่งเกิดจากปรสิตในตัวของเอ็ดดี้ดันหลุดไปรวมร่างกับคลีตัส คาซาดี้ (วู้ดดี้ ฮาร์เรลสัน) ระหว่างที่เขากำลังจะถูกประหารชีวิตด้วยการฉีดยาเข้าเส้นเลือด ดันไปกระตุ้นเจ้าปรสิตตัวร้ายให้ยึดครองร่างและออกอาละวาดจนคุกแตกกระจุย
เป้าหมายสำคัญของคลีตัสนอกจากการมีชีวิตรอดแล้ว เขายังต้องการกลับไปเจอคนรักเก่าอย่างชรีค (นาโอมี แฮร์ริส) หญิงสาวผู้มีพลังพิเศษในการใช้เสียงกรีดร้องเพื่อทำลายคู้ต่อสู้ ทำให้คลีตัสต้องพึ่งพาคาร์เนจในการใช้พลังพิเศษ ในขณะที่คาร์เนจเองต้องการร่างเพื่อออกหาอาหารเช่นกัน
แม้ว่าจะไม่มีอะไรพลิกโผ เมื่อท้ายที่สุดแล้วทางฝั่งเอ็ดดี้และวีนอมก็จำเป็นจะต้องกลับมา “ดีกัน” เพื่อปราบคาร์เนจ แต่หนังได้เลือกที่จะทำให้คนดูเห็นว่าความสัมพันธ์ที่สานต่อ เชื่อมโยงแก่กันมาเป็นเวลานานของเอ็ดดี้และวีนอมนั้น ทำให้ทั้งสองรู้จุดแข็งและจุดอ่อนของตัวเอง เมื่อทั้งสองยืดหยุ่นและถ้อยทีถ้อยอาศัยแก่กันและกัน พวกเขาสามารถมองเห็นจุดอ่อนของคาร์เนจและคลีตัสที่ไม่อาจจะประสานเชื่อมโยงเป็นร่างเดียวกันอย่างแท้จริง และทำให้วีนอมเอาชนะอีกฝ่ายได้ในที่สุด
เรื่องราวในภาคแรกกับภาคนี venom 2 พากย์ไทย ไม่มีโฆษณา ยังมีแนวทางเดิมๆ ที่ชวนให้นักวิจารณ์ยี้ จากส่วนผสมของแนวแอนตี้ฮีโร่ติดตลก+เลือดสาด จะว่าเหมือนเดดพูลก็ไม่ใช่เพราะเรตของเรื่องนี้อยู่ที่ PG13 เท่านั้นเอง ซึ่งก็คือไม่มีฉากแหวะกัดเลือดไหลใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งมันค่อนข้างย้อนแย้งกับต้นฉบับคอมิคของเรื่องนี้ที่เน้นโหดเลือดสาด ยิ่งภาคนี้การที่เรื่องเน้นไปที่ตัวร้ายคาร์เนจที่ต้นร่างเป็นฆาตกรต่อเนื่อง คาร์เนจโหดมากกว่าเวน่อมมากมาย แต่พอโดนจำกัดด้วยเรต 13 แบบนี้ก็เลยกลายเป็นตัวเรื่องไม่สามารถไปในแนวทางนั้นได้เต็มที่ที่ หรือแม้แต่สักครึ่งเดียวก็อาจจะยังไม่ได้ด้วย ดังนั้นคงที่
คาดหวังความโหดจากตัวร้ายในภาคนี้ก็ต้องผิดหวังกันแน่นๆ แต่ถ้ามองอีกมุมสำหรับคนที่ไม่เคยดูหรือรู้เรื่องต้นฉบับคอมมิคมาก่อน คาร์เนจตัวร้ายในหนังเวอร์ชั่นนี้ก็เป็นตัวร้ายที่มีฉากแอ็กชั่นถล่มทำลายล้างสิ่งต่างๆ รอบตัวได้สนุกแบบเว่อร์ๆ ดีเหมือนกัน เรียกว่าตอบโจทย์ผู้ชมทุกอายุทุกกลุ่มได้เลย จึงไม่แปลกใจที่หนังทำเงินถล่มทลายทั้ง 2 ภาคสวนทางกับนักวิจารณ์ตลอด แต่กว่าที่เรื่องจะเปิดตัวคาร์เนจก็ปาไปเกินครึ่งชั่วโมงแล้ว โดยเป็นฉากแหกคุก กับคั่นด้วยฉากตำรวจไล่ล่านิดหน่อย แล้วก็ไปโผล่อีกทีในฉากต่อสู้ตัดสินท้ายเรื่อง ซึ่งรวมๆ แล้วฉากแอ็กชั่นต่อสู้กันก็ไม่ได้เยอะอย่างที่คิด นอกจากนี้ก็มีตัวละครแฟนของเคลตัสที่มีพลังพิเศษเป็นการพ่นคลื่นเสียงออกมาแจมด้วย แต่เธอก็ไม่ได้มีบทบาทอะไรมาก เหมือนเป็นตัวร้ายแถมซะมากกว่าครับ
แต่สิ่งหนึ่งที่เป็นปัญหาและไม่เกี่ยวกับคนอ่านคอมิคมาคือ การที่เรื่องพยายามเน้นตลกพร่ำเพรื่อมากเกินไป เรียกว่าเหมือนผู้สร้างได้ใจที่ภาคแรกใส่ส่วนผสมนี้มาแล้วคนชอบ ภาคนี้จึงพยายามยัดมุกตลอกเข้ามาถี่ยิบจนทำให้ตัวละครทุกตัวในภาคนี้ต้องหาทางยิงมุกตลกกันหมด ซึ่งแรกๆ ก็อาจจะขำกับมุกทะเลาะกันของเอ็ดกี้กับเวน่อม แต่พอตัวเรื่องยัดมุกตลกใส่ตัวละครทุกตัวอย่าง คาร์เนจ เคลตัส ซึ่งเป็นตัวร้ายก็เลยกลายเป็นตลกที่ออกมาค่อนข้างฝืด แม้กระทั่งไคลแม็กซ์ฉากสู้สุดท้ายของเรื่องก็ยังไม่วายยิงมุกตลกกันมาเรื่อยๆ ซึ่งมันกลายเป็นมุกตลกเฟ้อจนแอบลดทอนความเข้มข้นของฉากแอ็กชั่นในเรื่องไปแทน รีวิวหนังออนไลน์
นอกจากนั้นตัวบทก็ถือว่ามีปัญหาพอสมควร จากการที่เรื่องแทบไม่มีอะไรเลยคือ เอ็ดดี้พาเชื้อไปทำให้เคสตัสกลายเป็นคาร์เนจ แล้วก็กลับมาตามล่าเอ็ดดี้แค่นั้น ไม่อะไรหักมุมหรือแปลกใหม่เลย เรียกว่าเป็นเส้นตรงแน่วจนคนดูไม่ต้องเดาอะไรอีกเลย แถมยังดูการ์ตูนง่ายๆ มากไป ตัวเรื่องจึงเหลือแค่ฉากแอ็กชั่นที่คนรอดูและช่วยกลบบาดแผลของบทตรงนี้ไปแทน
แต่จุดที่ภาคนี้ทำได้ดีก็ยังมี นั่นคือการเน้นความสัมพันธ์ของเอ็ดกี้กับเวน่อม ซึ่งภาคนี้ดูมีจิตใจเหมือนมนุษย์มากขึ้นกว่าภาคแรก โดยเวน่อมเป็นเหมือนคนคอยดูเอ็ดดี้ทุกอย่าง แม้จะชอบพูดกัดเอ็ดดี้ไปด้วยก็ตาม ซึ่งเรื่องทำให้เวน่อมภาคนี้ดูน่ารักขึ้นมาก อีกทั้งยังเข้าอกเข้าใจความรู้สึกของเอ็ดดี้ในเรื่องความรักที่ไม่สมหวัง ซึ่งตัวละครแอนนี่แฟนเก่าของเอ็ดดี้ก็ได้กลับมามีบทบาทสมทบนิดหน่อยพอเป็นสีสันเล้กของเรื่องได้ แต่บทในภาคนี้ใส่เธอกลับมาเพื่อตัดออกไปมากกว่า เพราะการที่เรื่องต้องมีนางเอกดูเป็นภาระมากกว่าจะเป็นตัวช่วยสำคัญได้ เพราะยังไงคนก็ต้องการดูตัวเวน่อมมากกว่าอยู่ดี ในตอนจบของเรื่องจึงกลายเป็นฉากกระหนุงกระหนิงบอกรักของเวน่อมกับเอ็ดดี้ไปแทน
ส่วนตัวนักแสดง วู๊ดดี้ ฮาเรลสัน ที่เป็น เคลตัส คาซาดี้ ก็ดูจิตๆ เหมาะกับบทดี ยิ่งฝีมือระดับนี้ก็ไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว แต่ด้วยความที่บทพยายามยัดตลกเข้ามากับบทที่อ่อนเหมือนการ์ตูนเด็ก ก็เลยกลายเป็นการแดสงของวู๊ดดี้ก็ไม่ได้ช่วยให้เรื่องดีขึ้นสักเท่าไหร่ สุดท้ายตัวละครนี้ก็ถูกปิดตายไปในตอนจบด้วย
ภาพรวมต้องบอกว่า End Credit ของ venom 2 ไม่มีโฆษณา มีความตื่นเต้นและพีคกว่าหนังทั้งเรื่องก็ไม่แปลกเกินไป และอยากให้ทุกคนรอดูครับบอกเลยว่า ว้าว และแฟนๆหลายๆคนน่าจะรู้จักกันดีตามที่หลุดกันมาก่อนหน้าเป๊ะๆเลยนั้นเองครับ แต่ถ้ามองภาพรวมของหนัง มันย่อยง่ายดูง่าย ไม่มีอะไรมากเพลินๆได้อยู่เพื่อปูไปเรื่องอื่นๆ ภาคต่อได้ดี แต่ถ้าคาดหวังว่าจะดีกว่าภาคแรก หรือสนุกลงตัวเท่านั้นอาจจะไม่ขนาดนั้น แต่ถ้ามองว่าดูเพลินๆแก้เบื่อเรื่องนี้ก็ทำได้ไม่ได้เสียเวลาอะไรนั้นเองครับ