รีวิวหนัง Roald Dahl’s Matilda the Musical (2022) มาทิลด้า เดอะ มิวสิคัล
ภาพยนตร์คอมเมดี้แฟนตาซีที่มาในรูปแบบละครเวที สร้างความหรรษาให้กับผู้ชมเป็นอย่างมาก เรื่อง Roald Dahl’s Matilda the Musical 2022 : มาทิลด้า เดอะ มิวสิคัล ได้หยิบยกมาจากนิยายของ Roald Dahl กลับมาเล่าใหม่อีกครั้ง โดยจะมาเติมเต็มความสนุกสนานผ่านเสียงเพลงและเรื่องราวอันสุดลึกซึ้งของสาวน้อยผู้มีพลังวิเศษ Matilda (รับบทโดย Alisha Weir) หากคุณเป็นคนรักหนังแฟนตาซีน่ารักฟรุ้งฟริ้ง สามารถไปติดตาม หนังน่าดู ซีรีส์น่าติดตาม เรื่องอื่น ๆ ได้ที่นี่ ดูหนังออนไลน์
รีวิวหนัง Roald Dahl’s Matilda the Musical ภาพยนตร์คอมเมดี้แฟนตาซี ปี 2022
Matilda the Musical รีวิว ต้องบอกก่อนเลยว่าไม่เคยดูหรือไม่เคยสัมผัสกับ Matilda ทั้งเวอร์ชันหนังและนิยายมาก่อนเลย นี่จึงเป็นการดู Matilda ครั้งแรกซึ่งมาในฉบับหนังมิวสิคัลและก็ได้ตกหลุมรักหนังฉบับนี้ไปเป็นที่เรียบร้อย หนังทำในส่วนที่สำคัญที่สุดอย่างการใช้บทเพลงเพื่อขับเคลื่อนเรื่องราวออกมาสมบูรณ์แบบมาก ๆ การใช้เพลงเล่าเรื่องแบบฉากต่อฉากลื่นไหลไม่มีเคอะเขิน
ท่วงท่าลีลาการเต้นออกแบบมามีเสน่ห์ประทับใจจนน่าดู พอผสมเข้ากับองค์ประกอบทางด้านแสงสีรวมไปถึงคอสตูมก็ทำให้กลายเป็นหนังมิวสิคัลที่ถ่ายทอดภาพรวมออกมาได้มีชีวิตชีวาและสนุกสนานมาก ๆ เพลงหลายเพลงก็ยังมีความหมายที่ลึกซึ้งและให้พลังใจที่ดีอีกด้วย
ตัวหนังมีความยาวประมาณ 1 ชั่วโมง 57 นาที เปิดตัวมาได้อย่างน่าประทับใจมาก ด้วยฉากของเด็ก ๆ ตัวจิ๋วแบเบาะ และเริ่มต้นหยิบจับใส่องค์ประกอบต่าง ๆ เข้ามาผสมผสานกันได้แบบสมบูรณ์แบบมาก ทั้งการเลือกเพลงมาใช้ โทนสีของภาพ การออกแบบท่าเต้น เสื้อผ้า รวมถึงองค์ประกอบต่าง ๆ ที่ถูกเล่าออกมาได้สนุกสนาน มีเสน่ห์และชวนให้ดูต่อได้ง่าย ๆ เลย
เรื่องย่อ Roald Dahl’s Matilda the Musical
matilda the musical เรื่องย่อ ว่าด้วยเรื่องราวของ Matilda (รับบทโดย Alisha Weir) สาวน้อยนักเรียนที่มีความสามารถล้นเหลืออันเนื่องมาจากแรงบันดาลใจในตัวของครู Honey (รับบทโดย Lashana Lynch) ที่ได้คอยช่วยเป็นกำลังใจและสนับสนุน Matilda ให้ได้จินตนาการและใช้พลังอันสดใสของเธอในการต่อกรกับครูใหญ่ Trunchbull ที่กดขี่ข่มเหงและพยายามจะปิดกั้นความคิดอันอิสระของเหล่านักเรียน เธอมาพร้อมความตั้งใจที่จะกำจัดพวกคิดนอกกรอบและคนที่ไม่ทำตามกฎของ Crunchem Hall ออกไปให้หมด
Roald Dahl’s Matilda the Musical เล่าเรื่องง่าย ๆ แต่ประณีตมาก
ไดนามิกของเรื่องนี้สนุกมาก Matilda รีวิว แบ่งเล่าออกมาได้อย่างดีและนำมาบรรจบกันได้อย่างละเอียดอ่อนมาก แม้เนื้อเรื่องจะดูเหมือนเป็นหนังเด็ก ๆ ทั่วไป แต่จริง ๆ แล้วมันแอบให้ความรู้สึกของความตลกร้ายแบบฉบับผู้ใหญ่อะไรบางอย่างเอาไว้ด้วย มันมีความดาร์ก หดหู่ที่มาในคราบของเด็กน้อยวัยใส รวมไปถึงเนื้อเพลงหลายเพลงในเรื่องที่มีเนื้อหาที่ลึกซึ้ง ประณีตและอ่วมไปด้วยอารมณ์แบบขั้นสุด
ถือเป็นวิธีการเล่าเรื่องผ่านบทเพลงได้สมบูรณ์แบบมาก แม้จะดูเหมือนเป็นหนังที่มีเด็กมาร้องเพลง เล่าเรื่องง่าย ๆ อย่างนั้น แต่แก่นสาระข้างในมันค่อนข้างประณีตมาก ถ้าคนโต ๆ มาดูก็คิดว่าจะต้องอินไปกับหนังเรื่องนี้ได้แน่นอน เพราะในเนื้อหาลึก ๆ มันได้เปิดพื้นที่ให้ผู้ใหญ่ได้คิดถึงช่วงเวลาตอนเป็นเด็ก ได้กลับมาสำรวจความฝันวัยเยาว์ของตัวเองอีกครั้ง หนังเรื่องนี้มันทวงถามถึงความเป็นเด็กในตัวผู้ชมได้เป็นอย่างดีเลย
บอกได้เลยว่าหนังเรื่องนี้มันก็ยังส่งพลังงานดี ๆ กลับมาให้ได้อย่างเต็มที่ “แค่โลกไม่ได้เข้าข้างเรา ไม่ใช่จำเป็นว่าเราจะต้องยอมอดทนและยิ้มหวานเข้าใส่ เพราะไม่อย่างนั้นมันก็จะกลับมาเป็นเหมือนเดิมอีก” นอกจากนี้ก็ยังมีการหยิบยกประเด็นการกลั่นแกล้ง การโดนกดขี่ข่มเหงขึ้นมาเล่าได้อย่างลื่นไหลมาก ส่วนในด้านความสัมพันธ์ของตัวละครของ ครู Honey กับ Matilda นั้นลงตัวมาก เคมีของทั้งคู่เข้ากันดีมาก เนื่องจากทั้งคู่ก็ต่างมีบาดแผลที่บอบช้ำในใจมากทำให้เหมือนทั้งคู่ต่างฮีลดูแลหัวใจซึ่งกันและกัน เติมเต็มกันได้อย่างละมุนละม่อนจริง ๆ
องค์ประกอบสำคัญของ Roald Dahl’s Matilda the Musical
สำหรับฉากที่ประทับใจมากที่สุดก็คือฉากระเบิดอารมณ์ของน้อง Matilda มันคือการรวบรวมทุกสิ่งทุกอย่างแล้วออกมาเป็นอารมณ์อันเต็มเปี่ยมแบบขั้นสุดของน้องเลย เนื้อเพลงในฉากนี้ก็สุดยอดจริง ๆ อัดแน่นไปด้วยอารมณ์มากมาย และก็ฉากสอนพละของครูใหญ่ Trunchbull ที่พยายามจะเล่าเรื่องราวของตัวเองในซีนนี้ เราได้เห็นการหยิบจับทั้งเพลง เนื้อเพลง ท่าทาง การออกแบบองค์ประกอบทุกอย่างที่ลงตัวมาก แน่นอนว่าองค์ประกอบสำคัญของ Matilda the Musical ก็ถือบทเพลง ที่ถือว่าทำออกมาได้ใช้ทีเดียว
ถึงจะไม่ได้เป็นบทเพลงที่ไพเราะสมบูรณ์แบบ แต่เพราะเป็นมิวสิคัลที่เล่าเรื่องราวผ่านตัวละครเด็ก ๆ พวกเขาก็ส่งพลังออกมาให้เพลงทรงพลังได้ดีทีเดียว ซึ่งก็ทำให้หลาย ๆ เพลงน่าประทับใจ ไม่ว่าจะเป็นเพลงเปิด “Naughty”, “The Hammer”, “Quiet” หรือ “When I Grow Up” ต่างเป็นเพลงช่วยยกระดับเรื่องราวของหนังได้ดี และยังมีองค์ประกอบทางการแสดงของทีมนักแสดงที่เลิศมาช่วยเอาไว้อีกแรง
โดยเฉพาะนักแสดงเด็กดาวรุ่ง “อลิชา เวียร์” ที่ไม่น่าเชื่อว่าเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ แค่นี้จะสามารถแบกรับหนังทั้งเรื่องเอาไว้ได้อย่างน่าประทับใจ น้องเพิ่งจะอายุแค่สิบขวบนิด ๆ ตอนที่ถ่ายทำหนังเรื่องนี้ แต่ให้พลังและทุ่มเทในการเป็น Matilda the Musical ได้อย่างน่าประทับใจ ทั้งในพาร์ทการแสดงที่ต้องสื่อสารผ่านอารมณ์มากมาย รวมไปทั้งพาร์ทมิวสิคัลที่ต้องร้องรำและสื่ออารมณ์ตามด้วย นักแสดงเด็กคนนี้ช่างทำผลงานออกมาได้น่าทึ่งไม่น้อย
รีวิวหนัง Roald Dahl’s Matilda the Musical การออกแบบตัวละครที่มีเอกลักษณ์
การออกแบบตัวละครอย่างครูใหญ่ Trunchbull นั้นน่าตกใจจริง ๆ ไม่คิดเลยว่า Emma Thompson จะถูกฉีกลุคไปขนาดนี้แทบจะเปลี่ยนไปคนละคนเลยก็ว่าได้ ชอบคาแรกเตอร์ของตัวละครครูใหญ่นี้มาก โดดเด่น มีเอกลักษณ์จริง ๆ และยิ่งการแสดงสีหน้าของ Emma Thompson ก็สามารถถ่ายทอดออกมาได้หมดจด สามารถเห็นรายละเอียดสีหน้าท่าทางของตัวละครนี้ได้ยอดเยี่ยมมาก
และที่จะไม่พูดถึงไปไม่ได้ก็คือน้อง Alisha Weir ที่เอาอยู่จริง ๆ ทั้งการแสดงและการร้องเพลง น้องเป็นเด็กที่มีสีหน้าชัดมาก ไม่ว่าจะขยับอะไรนิด ๆ หน่อยก็แสดงออกมาได้หมด ส่วนเสียงร้องเพลงก็เพราะ น่ารักมาก เข้ากับตัวน้องสุด ๆ น้องเหมาะกับบทนี้จริง ๆ รับประกันเลยว่าถ้าใครได้ดูน้องแสดงในเรื่องนี้จะต้องตกหลุมรักกันอย่างแน่นอน
บทสรุป Roald Dahl’s Matilda the Musical
หนังยังมีนักแสดงสมทบหลาย ๆ คนที่มาช่วยเติมเต็ม ไม่ว่าจะเป็น “เอ็มม่า ทอมป์สัน” ดาราระดับมืออาชีพของจริง ที่มาถ่ายทอดบทร้ายที่น่าหมั่นไส้และขยะแขยงแบบสุด ๆ และเธอก็สามารถเข้าถึงอินเนอร์ในตัวละครนั้นได้อย่างจัดจ้าน พลอยทำให้เกลียดตามไปเลย เช่นเดียวกับ “ลาชานา ลินช์” ที่ได้ถ่ายทอดอีกบทบาทที่ไม่ค่อยได้เห็นเธอในแบบนี้สักเท่าไหร่ เธอก็สามารถขับขานร้องเพลงได้อยู่เช่นเดียวกัน แม้ว่ามิติของบทที่เธอได้รับนั้นจะไม่ได้ซับซ้อนอะไร แต่เธอก็ถ่ายทอดออกมาได้ดี
ประเภท: ตลก / ดราม่า / ครอบครัว / เพลง
ผู้กำกับ: แมทธิว วอร์ชัส
นำแสดงโดย: อลิชา เวียร์, เอ็มม่า ทอมป์สัน, ลาชานา ลินช์
ความยาว: 117 นาที
กำหนดฉายในไทย: 25 ธันวาคม 2022
รีวิว The Little Mermaid เงือกน้อยผจญภัย ติดตามเรื่องราวความรักของเงือกน้อยผู้ไร้เดียงสาได้ที่นี่