รีวิวหนังโลกิ Loki Season 1

 

 

 

มาอีกครั้งกับผมและการรีวิวหนังสุดมัน วันนี้ผมจะมารีวิวเรื่อง โลกิ Loki  หลังจากที่ Marvel Studios ได้เล่าเรื่องราวใน Marvel Cinematic Universe หรือจักรวาล MCU ที่ต่อจาก Avengers: Endgame ผ่านซีรีส์ไปแล้ว 2 เรื่อง ส่วนตัวผมเองได้รับชมตอนที่ 1 ทาง Disney+ ของประเทศสิงคโปร์ไปแล้วเรียบร้อย ต้องบอกว่ารู้สึกประทับใจไม่แพ้ตอนที่ได้ดู WandaVision และ The Falcon And The Winter Soldier ตอนแรก

หลายคนคงได้ทราบกันดีแล้วว่าโลกินั้นถูกธานอสฆ่าตายไปแล้วใน Avengers: Infinity War และใน Avengers: Endgame ทีม Avengers ได้เดินทางย้อนเวลาไปในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใน The Avengers เพื่อรวบรวม Infinity Stones มาชุบชีวิตของสิ่งมีชีวิตครึ่งจักรวาลที่โดนธานอสลบหายไป แต่เกิดเหตุผิดพลาดจนทำให้โลกิในไทม์ไลน์ที่ทีม Avengers ย้อนเวลาไปขโมย Tesseract และหนีไปได้ (จากเดิมที่จะต้องถูกจับและเกิดเหตุการณ์ใน Thor: The Dark World, Thor: Ragnarok และตายใน Avengers: Infinity War) ซึ่งในซีรีส์ Loki นั้นก็ได้เล่าเรื่องราวต่อจากฉากที่โลกิพ่ายแพ้ ถูกจับ และหนีไปได้ตามที่เห็นใน Avengers: Endgame เลย และนี่ก็คือความรู้สึกหลังจากที่ได้รับชมตอนที่ 1 ที่มีชื่อว่า Glorious Purpose ครับ

จากนั้นโลกิก็มีชีวิตและดำเนินเรื่องต่อไปตามเส้นเรื่องของซีรีส์นั้นเอง นี่คือความฉลาดของทีมเขียนบทและทีมสร้าง ที่เขาสามารถจับประเด็นต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในภาพยนตร์ก่อนหน้านี้มาสร้างเรื่องได้อย่างมีน้ำหนักและน่าสนใจ เมื่อโลกิอยู่ใน TVA เขาก็ได้ไม่ถูกกักขังหรือลงโทษเหมือนผู้ละเมิดเส้นเวลารายอื่น เพราะโมเบียสนักสืบของ TVA ให้โลกิช่วยสืบคดีตัวฆาตกร ที่ฆ่าเจ้าหน้าที่ของ TVA มานับครั้งไม่ถ้วน เพราะเขาให้เหตุผลกับโลกิว่าเจ้าฆาตกรคนนี้มีอุปนิสัยทุกอย่างเหมือนกับโลกิทุกประการ ไม่ว่าจะเป็นความเจ้าเล่ห์ การหลอกลวง การคิดอุบายต่าง ๆ แต่ท้ายที่สุดแล้วโมเบียสเฉลยว่าเจ้าฆาตรกรคนนี้คือตัวตนหนึ่งของโลกิที่อยู่ในมิติเวลาหนึ่ง ดูหนังออนไลน์

 

รีวิวหนังโลกิ Loki Season 1

 

รีวิวหนังโลกิ Loki Season 1 เรื่องย่อ/เนื้อเรื่อง

 

เรื่องเล่าบอกเล่าหลังจากเหตุการณ์ในช่วงต้นของ อเวนเจอร์ส: เผด็จศึก โลกิเวอร์ชั่นที่หลบหนีมาจากเหล่าอเวนเจอร์ในนิวยอร์กปี 2012 พร้อมกับเทสเซอร์แร็ค เตรียมจะก่อแผนร้ายอีกครั้ง แต่ทว่า TVA กลับปรากฏตัวและพาตัวโลกิไปยังที่อีกมิติเวลาหนึ่งซึ่งมีสถานะเหมือนออฟฟิศที่เคยจัดการเส้นเวลาที่แตกแขนงออกไปจากการกระทำของ ตัวแปร ที่สามารถสร้างเส้นเวลาใหม่ที่เรียกว่า Nexus Event และสามารถทำลายความสงบสุขของทั้งจักรวาลได้

โลกิ เทพแห่งการหลอกลวง ฝืนชะตาจากการต้องถูกคุมขังไปแอสการ์ดทำให้เส้นเวลาผิดเพี้ยน จนหน่วยงานผู้พิทักษ์เส้นเวลาต้องเข้ามาจับกุม โดยยื่นเงื่อนไขหากเขาช่วยกอบกู้เส้นเวลาที่ผิดเพี้ยนต่าง ๆ กลับมาปกติได้ จะได้รับการไว้ชีวิต โลกิต้องเอาตัวรอดจากชะตากรรมใหม่นี้ พร้อมไขปริศนาว่าผู้อยู่เบื้องหลังของทุกสิ่งอย่างนี้คือใครกันแน่

โลกิที่มีชะตากรรมและถูกขีดเส้นกำหนดไว้แล้ว จึงต้องเรียนรู้อนาคตที่เขาไม่เคยได้ไปถึงกับลิขิตอันทรงเกียรติเพื่อเปลี่ยนแปลงและหาทางร่วมมือกับ TVA ตามล่าหาตัวแปรที่สำคัญที่สามารถสั่นคลอนทั้ง TVA หรือแม้แต่ตัวเขาเอง ร่วมด้วยสหายและศัตรูใหม่ โลกิค่อย ๆ ค้นพบความเจ็บปวด ความกล้าและตัวตนที่แท้จริงที่ตัวเองไม่เคยยอมรับหรือเข้าใจ แต่นั่นก็ทำให้อันตรายเข้าหาตัวเขาและคนรอบตัวในจักรวาลเช่นเดียวกัน นี่คือเรื่องราวในแง่มุมของโลกิที่ไม่มีใครรู้ และจุดเริ่มต้นของชะตากรรมอันยิ่งใหญ่ที่สุดในจักรวาล MCU

ซีรีส์เรื่องนี้เดินเรื่องแบบสไตล์เล่าและรู้ไปตามเนื้อเรื่องผสมกับตลกและต้มตุ๋นไปมา ไม่เปิดเผยตัวเรื่องราวหรืออะไร ให้เราเป็นตัวแทนกับโลกิสำรวจไปในเรื่องราวทั้งในด้านของตัวตนที่แท้จริงของโลกิ และตัวละครรอบตัวทั้งดีและร้ายที่ค่อย ๆ ผลักดันให้เรื่องราวมีความเข้มข้นในแบบฉบับของซีรีส์ที่เน้นพล็อตมากกว่าฉากแอ็คชั่นแต่ก็ยังไม่ทิ้งความอลังการในแง่คอนเซปต์ที่ล้ำที่สุดในจักรวาล MCU แถมหยอกเย้ากับประวัติศาสตร์จริง ๆ ที่ไม่มีคำอธิบายชัดเจน  แต่ก็ยังดูเชื่อได้ว่ามันเกิดขึ้นในจักรวาลกับองค์กร TVA ที่มีบทบาทสำคัญของเรื่อง เราอาจจะเคยเห็นพวกซีรีส์แนวสืบสวนไล่ล่าข้ามเวลาแบบ Dr.who ที่ตัวละครไปในยุคต่าง ๆ ดูหนังฟรี

 

รีวิวหนังโลกิ Loki Season 1

 

ความรู้สึกหลังดูหนัง Loki Season 1

 

เรื่องนี้เล่นใหญ่ขนาดที่ว่าบทสรุปของเรื่องทำเอาค้างเติ่งและทิ้งปมให้จักรวาลมากมาย  ตัวละครในเรื่องก็ไม่ได้เยอะมากมาย ส่วนใหญ่จะมาในบทรับเชิญแต่เซอร์ไพรส์ในทุกหน้าที่โดยเฉพาะคนที่ตามจักรวาลคอมมิค แต่ในแง่ของคนนอกที่เพิ่งมาดูคุณก็สามารถดูเรื่องนี้ได้เหมือนกัน ต่างจากซีรีส์เรื่องก่อน ๆ ที่คุณต้องทำความเข้าใจ แต่เรื่องนี้คือพาคุณเข้าไปเห็นได้สัมผัสโดยที่ไม่ต้องรู้เรื่องเกี่ยวกับหนังเลยสักนิด เพราะมันคือเนื้อเรื่องในตัวของมัน แค่ผลพวงในตอนท้ายมันส่งต่อไปถึงสื่ออื่น ๆ ในมาร์เวล ทั้งในหนังในจักรวาลที่กำลังจะออกฉายและได้รับผลกระทบจากซีรีส์อย่าง What If…?, Spider-Man: No Way Home, Doctor Strange in the Multiverse of Madness ที่ต่อยอดมาจากช่วงท้ายของ Wandavision และซีรีส์เรื่องนี้ที่โลกิจะได้ไปปรากฏตัวในภาพยนตร์ รวมถึง Ant-Man and the Wasp: Quantumania

การเดินเรื่องในครึ่งซีซั่นก็คือเน้นบทสนทนาและความสัมพันธ์กว่าจะได้บู๊จริง ๆ และก็มีน้อยด้วย อาจเพราะด้วยซีรีส์ต้องการจะโชว์พล็อตและไอเดียสร้างสรรค์เกี่ยวกับเวลา เนื้อเรื่องกับบทสนทนาจึงเป็นหัวใจสำคัญของเรื่องมากกว่าฉากแอ็คชั่นในสไตล์หนังซุปเปอร์ฮีโร่ และด้วยความยาวของตอนที่มีเพียงแค่หกตอน ด้วยตอนท้ายที่ไม่มีฉากอลังการหรือตูมตาม แต่กลับเปิดตัวร้ายจริง ๆ ของเรื่องให้ได้เห็นความน่ากลัวกับบทสนทนาที่ปั่นประสาทและน่าสะพรึงกว่าทานอสในตอนอเวนเจอร์ เฟสก่อน ๆ อีก เพราะอะไรน่ะเหรอ เพราะมันสามารถควบคุมการไหลของกระแสเวลาได้และเป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด

ซึ่งผมจะไม่บอกว่าเป็นใคร แต่ผลกระทบมันขยายกว้างมาก ๆ หลังจากที่คุณดูซีรีส์จบ และยิ่งทำให้คุณงงว่าจะตามจักรวาล หรือจะรอดูซีรีส์ซีซั่น 2 ดี เพราะยังรู้สึกได้ว่ามันน่าจะเล่าเรื่องในตัวของมันได้อยู่ ซึ่งเป็นข้อดี เพราะมันก็ยังดูสนุกโดยไม่ต้องอิงจักรวาลสักเท่าไหร่ ดูหนังออนไลน์

 

 

โชคดีเพราะตัวละครโลกิในเรื่องคุณอาจจะไม่ต้องทำความเข้าใจอะไรมากมาย เพราะซีรีส์เปิดตัวเขาในการเป็นตัวร้ายที่คอยป่วนโลกและจักรวาลมาตลอด แต่ครั้งนี้มาร์เวลโยนเข้าสู่สถานการณ์บนเส้นเวลาที่อยู่ห่างจากเส้นเวลาของภาพยนตร์ ทำให้เราได้เห็นอารมณ์และจิตใจของโลกิมากกว่าครั้งไหน ๆ ทั้งสุข เศร้า เจ้าเล่ห์ สิ้นหวัง และโกรธแค้น แรงจูงใจอะไรบางอย่างที่ผลักดันให้เขาต้องร้าย มันเป็นเพราะตัวเขา หรือเพราะเวลากำหนดไว้ มันน่าสนใจมากเพราะมุมนี้แหละที่ทำให้โลกิมีเสน่ห์จนมีแฟน ๆ ติดตามเพราะความที่เขาคุ้มดีคุ้มร้ายในจักรวาลมาตลอด

เขามีฝีมือและเวทมนตร์อันทรงพลังแต่ไม่เคยได้ใช้มันจริง ๆ มาในครั้งนี้เขาจะเป็นตัวละครหลัก โลกหมุนรอบตัวเขาและทั้งจักรวาลที่เปลี่ยนไปก็เพราะตัวเขาแต่อย่างที่บอกโลกิยังอยู่ในจักรวาล MCU ถ้าคุณอยากรู้จักเขามากกว่านี้ ก็คงต้องไปตามเรื่องราวของเขาใน Thor, The Avengers, Thor: The Dark World, Thor: Ragnarok, Avengers: Infinity War คุณจะได้รู้ว่าเส้นทางการไถ่บาปของเขามายังไง แต่ในซีรีส์การไถ่บาปของเขาจะเป็นในอีกแบบนึง เรียกได้ว่าซีรีส์นี้จะต้องทำให้ใครรักและเอ็นดูโลกิอย่างแน่นอน ดูหนังฟรี

 

 

ประเด็นสำคัญในเรื่องใหญ่จริง ๆ ทั้งเรื่องเจตจำนงเสรี การเลือกทำในสิ่งที่กำลังจะทำ หรือไม่ควรทำ ว่าแท้จริงแล้วมีอยู่จริงหรือไม่ ผ่านภาพของ TVA องค์กรที่คอยบงการเวลาและจักรวาลให้ทุกอย่างนั้นเป็นไปในทางที่ควรจะเป็นและอยู่เหนื่อไปกว่าทุกสิ่งในจักรวาล MCU แต่เมื่อมีโลกิซึ่งเป็นตัวแปรอยากจะเปิดเผยความจริง มันก็เลยเกิดเป็นความขัดแย้งว่าแท้จริงเราเป็นแบบที่เราเป็น หรือมีคนกำหนดให้เราเป็นตั้งแต่แรก เรื่องของอุดมการณ์และความขัดแย้งในเรื่องการปกครองว่าแท้จริงแล้วเราควรเชื่อในสิ่งที่เห็น หรือ เชื่อในสิ่งที่มันเป็น ประเด็นมันค่อนข้างที่จะส่งผลกระทบกับตัวละครทุกตัวมาก ทั้งในเรื่องของการเมืองผ่านกาลเวลา

เรื่องของผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งโดยแบ่งแยกออกเป็นจักรวาล ความเจ็บปวดของคนที่พยายามดิ้นรนเพื่อที่จะหลุดพ้นจากการควบคุมของทุกสิ่งแต่สุดท้ายแล้วก็มีสิ่งอื่นเข้ามาจัดการให้มันเป็นเช่นนั้น เรื่องของความต้องการ ความรักและความปรารถนาดี มิตรภาพและความสัมพันธ์ที่มาถึงจุดแบ่งแยกอย่างชัดเจนเมื่อต่างฝ่ายต่างมองเหตุการณ์ต่างกัน เป็นการวัดระหว่างศีลธรรมและความจำเป็นที่เห็นภาพชัดเจนมากกว่าการเข่นฆ่าฟันแบบสไตล์หนังฮีโร่เรื่องอื่น ๆ ถือเป็นพล็อตเรื่องที่ยิ่งใหญ่และซับซ้อน แต่ถูกนำเสนอออกมาอย่างเรียบง่ายไปหน่อยในตอนท้าย รีวิวหนังออนไลน์

 

 

ชอบที่มีการย้อนให้เห็นเหตุการณ์ต่าง ๆ ของโลกิที่เคยเกิดขึ้นใน MCU หลาย ๆ จุด ทำให้รู้สึกคิดถึงช่วงเวลาที่ผ่านมาของจักรวาลนี้

ชอบความต่อเนื่องในการดำเนินเรื่องจาก Avengers: Endgame

มีการใช้ฟุตเทจที่ไม่เคยเห็นมาก่อนใน Avengers: Endgame นิดหน่อย

ใน WandaVision และ The Falcon And The Winter Soldier พยายามเลี่ยงที่จะให้เห็นตัวละครหลักจากภาพยนตร์ แต่ใน Loki นั้นเอามาให้เห็นกันแบบชัด ๆ เลย ถึงแม้ว่าจะเป็นฟุตเทจที่เคยเห็นมาแล้ว แต่ในซีรีส์ก็จับมานำเสนอได้แปลกใหม่ดีและทำให้คิดถึงตัวละครหลาย ๆ ตัว

ตัวละคร Mobius M. Mobius ของ Owen Wilson มีความน่าสนใจ และเคมีของ Tom Hiddleston กับ Owen Wilson เข้ากันดีมาก

ในบางจังหวะเล่าเรื่องยืดยาวเกินความจำเป็น แต่บางจังหวะก็ไวมากจนไม่คิดว่าจะเล่าในตอนที่ 1 รู้สึกได้ว่าซีรีส์จะรีบเดินเรื่องที่เป็นแกนหลักในตอนต่อไป

ก่อนดูมีความสงสัยว่าซีรีส์จะเล่นกับพฤติกรรมของโลกิในช่วงก่อนที่จะกลับตัวกลับใจยังไง ซึ่งในตอนที่ 1 ก็อธิบายตรงจุดนี้ออกมาได้ดีเลย

เสียดายที่บางจุดที่ดูอลังการในตัวอย่าง กลับกลายเป็นแค่จุดเล็ก ๆ